ธปท. เร่งถกแบงก์หาทางช่วยลูกค้ายืนยันตัวตนก่อนฝากเงิน

  • ใช้บัตรเดบิต-บัตรเอทีเอ็ม-บัตรเครดิต
  • ยืนยันตัวตนก่อนฝากเงิน
  • หวั่นเพิ่มต้นทุน บัตรหาย

นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงกรณีข่าวที่ธนาคารจะปรับขั้นตอนการฝากเงินผ่านเครื่อง CDM ซึ่งต้องมีการยืนยันตัวตนผ่านบัตรเดบิต บัตรเอทีเอ็มหรือบัตรเครดิต ทุกครั้ง ว่า เรื่องนี้เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย ของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องทำตาม แต่สิ่งที่เป็นหน้าที่ของ ธปท. คือ เราต้องทำงานร่วมกับผู้มีส่วนได้เสีย เช่น สมาคมธนาคารไทย ในการหาวิธีที่จะตอบโจทย์และต้องมีความยั่งยืนในการแก้ปัญหา

“ส่วนที่มีประชาชนเสนอว่าให้ใช้บัตรประชาชนแทนบัตรเดบิต บัตรเอทีเอ็มหรือบัตรเครดิตในการยืนยันตัวตนนั้น ธปท. เห็นว่าบัตรประชาชนเป็นสิ่งที่ทุกคนมี แต่ก็มีความเสี่ยง เช่น คนอาจจะลืมบัตรหลังจากยืนยันตัวตน หรือทำบัตรประชาชนหาย และการยืนยันตัวตนด้วยบัตรประชาชนก็มีต้นทุนสูง ซึ่งสุดท้ายแล้วธนาคารก็จะผลักภาระในส่วนนี้ให้กับประชาชน”

นายเศรษฐพุฒิ  กล่าวต่อว่า ธปท.เข้าใจโจทย์ของ ปปง. และเข้าใจปัญหาซึ่งเป็นข้อจำกัดของคนที่ไม่มีบัตรในการยืนยันตัวตน แต่การใช้บัตรประชาชนก็จะมีปัญหาอื่นอีก ซึ่งตรงนี้ต้องขอเวลาในการหารือเพื่อหาทางออก เช่น การใช้โมบายแอปพลิเคชัน การใช้เลขบัตรประชาชน หรือเลข OTP แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป ส่วนจะใช้เวลานานแค่ไหน ขอยังไม่ตอบ เพราะต้องขอคุยกับผู้เกี่ยวข้องก่อน ตอนนี้จึงเลื่อนไปก่อน ดังนั้นภาระประชาชนยังไม่เกิดขึ้น จากเดิมจะบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย.นี้ เป็นต้นไป

อย่างไรก็ดีล่าสุดสมาคมธนาคารไทย และธนาคารสมาชิกประชุมร่วมกัน มีแนวคิดให้เลื่อนการบังคับใช้ออกไปก่อน แต่ยังไม่ได้มีการระบุว่าจะเลื่อนการบังคับใช้ไปเมื่อไร เนื่องจากต้องรอการประชุมร่วมกับ ปปง.ก่อนโดยที่ประชุมเห็นว่าควรจะให้สถาบันการเงินกลับมาพิจารณากระบวนการ วิธีการ เพื่อให้ขั้นตอนการดำเนินงาน หรือบังคับใช้เพื่อไม่ให้สะดุด และเกิดผลกระทบต่อประชาชนให้น้อยที่สุด