ธปท.เพิ่มความผันผวนค่าบาท จ่อดัดหลังนักเก็งกำไรเพิ่ม

  • ระบุหลังใช้มาตรการ เงินร้อนเดือน ก.ค.ไหลเข้าลดลง
  • ใช้มาตรการลดพันธบัตรธปท.ต่ออีกเดือนในเดือนส.ค.
  • หากเงินยังไหลเข้าไม่หยุด พร้อมออกมาตการเพิ่ม

นายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยอาวุโสฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ในส่วนของการดูแลเศรษฐกิจ และค่าเงินบาทนั้น คณะกรรมการนโยบายการเงินได้เปิดช่องไว้ว่า หากเศรษฐกิจไทยชะลอตัวกว่าที่คาดไว้มากก็สามารถที่จะปรับนโยบายการเงินได้ แต่ในขณะนี้คงต้องดูมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐที่จะออกมาก่อนว่า จะช่วยเพิ่มการขยายตัวของเศรษฐกิจได้มากน้อยเพียงใด และนโยบายการเงินควรตอบสนองเศรษฐกิจไทยไม่ใช่การลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางต่างชาติ

ส่วนการดูแลเงินทุนเคลื่อนย้ายและค่าเงินบาทของไทยนั้น ยอมรับว่าในเดือนมิ.ย.เป็นเดือนที่มีเงินทุนต่างประเทศไหลเข้ามาพักระยะสั้นในตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้ไทยเร็วและแรงมาก โดย 5 เดือนแรกเงินไหลเข้าจำนวนนี้ยังเป็นติดลบ แต่เดือน มิ.ย.เดือนเดียว ทำให้ตัวเลข 6 เดือนแรกของปี 62กลับเข้ามาเป็นไหลเข้าสุทธิ 2,042 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

อย่างไรก็ตาม ด้วยมาตรการการลดการไหลเข้าของเงินทุนระยะสั้น และการเก็งกำไรค่าเงินของธปท.ทั้งจากการลดวงเงินคงค้างของบัญชีเงินฝากที่เป็นเงินบาทของผู้มีถิ่นฐานในต่างประเทศ และการรายงานตัวตนผู้ถือตราสารหนี้ต่างชาติ รวมทั้งการปรับลดการออกพันธบัตรระยะสั้นในเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา และการแทรกแซงค่าเงินทั้งโดยตรง และทางจิตวิทยา ทำให้ในเดือน ก.ค.เห็นเงินไหลเข้าลดลง

และในช่วงนี้ ธปท.ยังคงใช้มาตรการต่างๆ เพิ่มเติมเพื่อลดแรงจูงใจให้ต่างชาตินำเงินมาพัก โดยส่วนแรกในเดือน ก.ค.นี้ ธปท.ได้ลดออกพันธบัตร ระยะสั้นของธปท.ลงอีก เพื่อทำให้มีจำนวนพันธบัตรที่จะเข้ามาลงทุนได้ลดลง ในขณะเดียวกัน ยังปล่อยให้ค่าเงินบาทของไทยมีความผันผวนสูงขึ้น เป็นไปตามกลไกตลาดมากขึ้น เพื่อเพิ่มความเสี่ยงที่นักลงทุนต่างชาติจะมาพักเงินง่ายๆ ได้ผลตอบสูงลดลงจากเดิม ส่วนจะจำเป็นต้องออกมาตรการเพิ่มขึ้นหรือไม่นั้น ขึ้นกับเงินทุนที่จะเข้าในช่วงต่อไป ซึ่ง ธปท.มีเครื่องมือเตรียมไว้ตั้งแต่เบาไปหนัก