ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงตลอดเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้หารือกับธนาคารพาณิชย์เพื่อเตรียมความพร้อมในการดูแลลูกหนี้จำนวนหนึ่งที่อาจจะประสบปัญหาผ่อนส่งหนี้ไม่ได้ หลังครบกำหนดในการพักชำระหนี้ในวันที่ 22 ต.ค.ที่จะถึงนี้ โดยในขณะนี้ได้ขอความร่วมมือให้ธนาคารพาณิชย์เข้าไปดูแลลูกหนี้บางรายที่เห็นแล้วว่า อาจจะไม่มีความสามารถในการชำระหนี้ได้ โดยให้มีการเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ก่อนที่จะครบกำหนดเวลาพักหนี้ หรือ หากมีความจำเป็นธนาคารพาณิชย์สามารถที่ให้ลูกหนี้พักการชำระเงินต้นและดอกเบี้ยได้อีกระยะหนึ่งเพื่อเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ให้เสร็จสิ้น
ทั้งนี้ เท่าที่มีการประเมินภาพร่วมกับธนาคารพาณิชย์แล้ว คาดว่าจะมีลูกหนี้ 70-80% เป็นอย่างน้อยที่กลับมาชำระหนี้ได้
และหากธนาคารพาณิชย์เข้าไปเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ได้เร็วจะลดจำนวนผู้ที่มีโอกาสชำระหนี้ไม่ได้ลงอีก ขณะที่การปล่อยสินเชื่อใหม่นั้นช่วงที่ผ่านมา ธปท.ได้เข้าไปสอบถามลูกหนี้ โดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ถึงเหตุผลที่ไม่ขอสินเชื่อเพิ่มหรือไม่เข้าร่วมโครงการเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟท์โลน) ของธปท.โดยส่วนใหญ่ระบุว่า ยังไม่ใช่เวลาที่ต้องการก่อหนี้หรือลงทุนเพิ่ม เพราะจำนวนลูกค้าลดลง
ดังนั้น ธปท.จึงเตรียมที่จะขยายเวลาโครงการซอฟท์โลนออกไปในเบื้องต้น 6 เดือนเพื่อรองรับการกู้ใหม่เพื่อปรับธุรกิจในอนาคต
