ธปท.ชี้สงครามการค้ารอบใหม่สหรัฐฯ -จีน กระทบส่งออกมากขึ้น

  • แต่อาจจะกระทบน้อยกว่าประเทศอื่นในภูมิภาค
  • เหตุโครงสร้างส่งออกไทยกระจายตัวดีกว่า
  • เตือนป้องกันความเสี่ยงค่าบาทรับเงินทุนผันผวน

นางจันทวรรณ สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการสายยุทธศาสตร์และความสัมพันธ์องค์กร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)เปิดเผยว่า ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างประเทศมีแนวโน้มยืดเยื้อและทวีความรุนแรงขึ้นหลังสหรัฐฯประกาศตอบโต้รัฐบาลจีนที่ประกาศเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯรวมมูลค่ากว่า75,000ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในจำนวนนี้ครอบคลุมสินค้าทางการเกษตร เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม เคมีภัณฑ์ สิ่งทอ และรถยนต์ ทำให้สถานการณ์การค้าระหว่างประเทศมีความเปราะบางมากขึ้น โดยยอมรับว่าประเทศไทยเป็นประเทศเล็กที่มีเศรษฐกิจเปิดคงหลีกเลี่ยงผลกระทบในด้านลบมากขึ้นต่อการส่งออกได้ยาก

อย่างไรก็ตามมาตรการของภาครัฐที่เพิ่งออกมาสามารช่วยประคองเศรษฐกิจในด้านการใช้จ่ายในประเทศ ทั้งการบริโภคและการลงทุน ซึ่งจะช่วยยกระดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และหากเทียบกับประเทศในภูมิภาคโครงสร้างการส่งออกของไทย นับว่ายังกระจายตัวทั้งในด้านประเทศคู่ค้าและด้านสินค้าที่ส่งออก ทำให้การลดลงของการส่งออกไทยในช่วง6เดือนที่ผ่านมาน้อยกว่าหลายๆประเทศเช่นกลุ่มที่ส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์

นางจันทวรรณ ยังได้กลาวถึงผลกระทบในด้านตลาดการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทด้วยว่ายังมีแนวโน้มผันผวนสูงและอ่อนไหวต่อข่าวสารที่เกิดขึ้นธปท.ขอให้ผู้ประกอบการควรให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนโดยธปท.พร้อมร่วมมือกับกลุ่มต่างๆไม่ว่าจะเป็นสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทยสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยสภาอุตสาหกรรมไทยและธนาคารพาณิชย์ในการให้ความรู้เรื่องเครื่องมือต่างๆแก่สมาชิกในการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนอย่างต่อเนื่อง