ธนาคารแห่งประเทศไทยเปิดตัวแพลตฟอร์มพันธบัตรรัฐบาลแรกของโลกบนเทคโนโลยีบล็อกเชนของไอบีเอ็ม

  • ไอบีเอ็มประกาศในงาน SIBOS
  • แบงก์ชาติใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน
  • จำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์วงเงิน 5 หมื่นล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าข้อมูลจากสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทยระบุว่ามูลค่าคงค้างตลาดตราสารหนี้ไทยณเดือนธันวาคม 2562 มีมูลค่าประมาณ 13.304 ล้านบาทโดยพันธบัตรรัฐบาลมีมูลค่าสูงสุดในตลาดด้วยมูลค่า 4.947 ล้านบาท [1] เท่ากับ 37% เมื่อเทียบกับมูลค่าคงค้างตลาดตราสารหนี้ไทย ในอดีตการขายพันธบัตรรัฐบาลเป็นกระบวนการที่มีความซับซ้อนเกี่ยวข้องกับหลายฝ่ายและใช้เวลามากผ่านระบบที่ไม่สามารถแสดงผลแบบเรียลไทม์มีกระบวนการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลที่ซ้ำซ้อนและการกระทบยอดบัญชีแบบแมนวลที่เสี่ยงต่อความผิดพลาดของข้อมูล

เทคโนโลยีบล็อกเชนช่วยให้กระบวนการออกพันธบัตรที่เกี่ยวข้องกับผู้ออกพันธบัตรผู้จัดจำหน่ายนายทะเบียนและนักลงทุนรวมถึงผู้มีส่วนร่วมในอีโคซิสเต็มมีความคล่องตัวยิ่งขึ้นช่วยให้แพลตฟอร์มพันธบัตรรัฐบาลเป็นแหล่งข้อมูลหนึ่งเดียวที่ให้ข้อมูลเรียลไทม์ที่ไม่สามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้แก่ทุกฝ่ายที่อยู่ในเครือข่ายอีกทั้งยังช่วยลดกระบวนการการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลที่มีความซ้ำซ้อนและลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในการกระทบยอดบัญชีนอกจากนี้นักลงทุนยังสามารถซื้อพันธบัตรเต็มสิทธิ์ได้ที่ธนาคารเดียว

การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำหรับพันธบัตรรัฐบาลที่มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในครั้งนี้เกิดจากความร่วมมือของหน่วยงานแปดแห่งประกอบด้วยธนาคารแห่งประเทศไทยสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทยและธนาคารตัวแทนจำหน่ายประกอบด้วยธนาคารกรุงเทพธนาคารกรุงไทยธนาคารกสิกรไทยและธนาคารไทยพาณิชย์โดยมีเทคโนโลยีบล็อกเชนและแพลตฟอร์มคลาวด์ของไอบีเอ็มรองรับ

การนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้ในการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลสร้างประโยชน์และคุณค่าในเชิงธุรกิจแก่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งผู้ลงทุนได้รับพันธบัตรรวดเร็วขึ้นลดประมาณงานและระยะเวลาในการดำเนินการของผู้ออกพันธบัตรผู้จัดจำหน่ายนายทะเบียนอีกทั้งยังเพิ่มความโปร่งใสและลดต้นทุนการดำเนินการตลอดกระบวนการ

ความสำเร็จของโครงการพันธบัตรรัฐบาลของธนาคารแห่งประเทศไทยถือเป็นตัวอย่างล่าสุดที่แสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีบล็อกเชนสามารถพลิกโฉมการดำเนินงานของธุรกิจผ่านกระบวนการที่ลดความซับซ้อนและทำให้ความร่วมมือของหน่วยงานหลายฝ่ายเป็นไปอย่างรวดเร็วขึ้นโปร่งใสขึ้นปลอดภัยมากขึ้นและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

นางสาวปฐมาจันทรักษ์รองประธานด้านการขยายธุรกิจในกลุ่มประเทศอินโดจีนและกรรมการผู้จัดการใหญ่ไอบีเอ็มประเทศไทยกล่าวว่า ไอบีเอ็มมีความภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้นำแพลตฟอร์มบล็อกเชนระดับโลกและไอบีเอ็มคลาวด์เข้าสนับสนุนธนาคารแห่งประเทศไทยและมีส่วนร่วมทำงานเคียงข้างสู่ไมล์สโตนความสำเร็จครั้งสำคัญของอุตสาหกรรมการเงินไทย

ทั้งนี้ธนาคารแห่งประเทศไทยมีแผนที่จะขยายการใช้บล็อกเชนเพื่อรองรับพันธบัตรออมทรัพย์รัฐบาลทุกประเภททั้งสำหรับกลุ่มนักลงทุนรายย่อยและกลุ่มนักลงทุนสถาบันแบบ wholesale ต่อไป

สำหรับประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความตื่นตัวในการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้โดยมีอีโคซิสเต็มทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่มีความเคลื่อนไหวร่วมมือต่อเนื่องในปี 2562 แพลตฟอร์มหนังสือค้ำประกันโดยบีซีไอได้เริ่มเปิดใช้งานจริงโดยมีธนาคาร 22 แห่งและกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ 15 รายเข้าร่วมโดยปัจจุบันรองรับการทำหนังสือค้ำประกันมูลค่าประมาณ 9.5 พันล้านบาทขณะที่กรมศุลกากรเป็นหน่วยงานราชการลำดับที่สองในประเทศกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่นำเทรดเลนส์ (TradeLens) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลสำหรับการค้าโลกบนเทคโนโลยีบล็อกเชนเข้ามาช่วยเพิ่มความรวดเร็วแม่นยำและปลอดภัยให้กับการขนส่งทางเรือทั้งในและระหว่างประเทศโดยยังมีโครงการนำร่องและการเตรียมนำบล็อกเชนมาใช้เพื่อเพิ่มความโปร่งใสและประสิทธิภาพให้แก่ธุรกิจการเงินประกันภัยและภาครัฐที่กำลังจะเปิดตัวอีกหลายโครงการ