ที่ปรึกษาศบค. รับ! ประเทศไทยเข้าสู่โควิดระบาดระลอก 4 จากไวรัสกลายพันธุ์ที่เพิ่มขึ้น

วันที่ 7 ก.ค.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทีมคุณหมอประกาศแล้วว่า ประเทศไทยเข้าสู่ Wave ที่ 4 หรือ ระยะที่ 4 แล้ว โดยศาสตราจารย์คลินิก เกียรติคุณ นายแพทย์อุดม คชินทร ที่ปรึกษาศูนย์บริหาร สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. เปิดเผยถึง สถานการณ์ โควิด -19 ว่า ส่วนตัวมองว่า ตอนนี้เข้าสู่การระบาดระลอก 4 แล้ว เนื่องจากเป็นไวรัสกลายพันธุ์  ซึ่งคุณสมบัติสำคัญคือ การระบาดในชุมชน ในครอบครัวในองค์กร โดยหาที่มาที่ไปของเชื้อไม่ได้ ซึ่งเข้ากับคำจำกัดความของการระบาดระลอกใหม่

ส่วนมาตรการที่ทำอยู่ขณะนี้ กว่าจะเห็นผลต้องใช้เวลา  14 วัน จะเริ่มเห็นผลในมาตรการต่างๆ ซึ่งถ้าตัวเลขผู้ติดเชื้อทะลุหลักหลายพันเหมือนทุกวันนี้ ยอมรับว่าจะรับมือไหว ซึ่งตัวเลขผู้ติดเชื้อต้องอยู่ในระดับ 500 -1,000 รัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขถึงจะสู่ไหว โดยจะมีการประเมินสถานการณ์อีกครั้งในวันที่11-12 ก.ค นี้ ซึ่งตอนนี้ ต้องเร่งฉีดวัคซีนให้ครบ 2 เข็มให้ได้มาก 70% ของประชากรทั้งประเทศก่อนเพื่อลดการป่วยหนัก ลดเสียชีวิต

“สิ่งสำคัญที่จะหยุดการติดเชื้อได้นอกจากวัคซีนแล้ว คือ การหยุดการเคลื่อนไหว ของประชากร เนื่องจากเชื้อไปกับคน เชื้อจะไปเองไม่ได้ การ WFH ควรทำให้ได้อย่างน้อย75% ลดการไปสถานที่สาธารณะให้ได้มาก ลดการเดินทางข้ามจังหวัด หากตัวเลขผู้ติดเชื้อยังไม่ลด อาจจะต้องล็อกดาวน์เหมือนช่วงเมษายนปีที่แล้วถึงจะคุมอยู่ สิ่งสำคัญที่จะต้องทำตอนนี้คือ ต้องลดการเจ็บป่วยเสียชีวิต ให้ได้ก่อน”

ขณะที่นายสันต์ ศรีอรรฆ์ธำรง อาจารย์พิเศษคณะบริหารการพัฒนาสิ่งแวดล้อมจากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) NIDA กล่าวว่า โควิดรอบนี้น่ากลัวมากที่สุด เป็นคลื่นแบบ สินามิ (tsunami) สิ่งที่ประชาชนจะต้องทำ คือ รักษามาตรการอย่างเคร่งครัดที่สุด สวมหน้ากากอนามัย 100% ไม่สังสรรค์กินข้าว ไม่ดื่มเหล้ากับเพื่อนเด็ดขาด ยังไม่รวมกลุ่มจัดงานโดยเด็ดขาด ไม่รวมกลุ่มทำกิจกรรมทุกชนิด หลีกเลี่ยงไปพื้นที่แออัด คือ ขอให้ทำทุกอย่างเพื่อให้เราและครอบครัวปลอดภัยสูงสุด