ทีเอ็มบีล้วงลึกพฤติกรรม “GEN Y” #ของมันต้องมีก่อน40

  • ทีเอ็มบีล้วงลึกพฤติกรรมการใช้เงินคน“GEN Y”
  • ส่วนใหญ่ฝันอยากมีบ้าน-รถ-เงินออม แต่โลกความจริงหนี้ท่วมหัว
  • 70%ใช้บริการเงินกู้ หมดไปกลับ“ซื้อโทรศัพท์-เสื้อผ้า-เครื่องสำอาง”

 นางกาญจนา  โรจวทัญญู หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร สื่อสารและภาพลักษณ์องค์กร ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือทีเอ็มบี เปิดเผยว่า  ทีเอ็มบีร่วมกับบริษัท ไวซ์ไซท์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นผู้นำการให้บริการด้านการวิเคราะห์ข้อมูลโซเชียล ทำสำรวจข้อมูลพฤติกรรมเชิงลึกทางการเงินในโซเชียลมีเดียของกลุ่มคน GEN Y (เจน วาย) อายุ 23-38 ปี ผ่านแคมเปญ #ของมันต้องมีก่อน40 (“ของมันต้องมี” ก่อนอายุ 40) พบส่วนใหญ่มีความฝันสร้างอนาคตที่ดีและมั่นคง อยากมีบ้าน รถ และเงินออม  

“ในเฟสแรกเราได้จุดกระแสด้วย Influencer (อินฟลูเอ็นเซอร์) อย่าง กอล์ฟ ฟักกลิ้ง ฮีโร่ กันต์ กันตถาวร และกาละแมร์ พัชรศรี ที่เป็นดาราเซเลบ รวมไปถึง มิ้นท์  บล็อกเกอร์สายท่องเที่ยว และ ช่า เจ้าของเพจบันทึกของตุ๊ด มาร่วมแชร์เป้าหมายชีวิตให้คนที่ติดตามได้ฟังกัน ซึ่งได้รับกระแสตอบรับที่ดีเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะแฮชแท็กแคมเปญ #ของมันต้องมีก่อน40 ที่สามารถติดเทรนด์ Twitter (ทวิตเตอร์) อันดับหนึ่ง”

นายนริศ สถาผลเดชา ผู้บริหารศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีเอ็มบี กล่าวว่า ผลจากการสำรวจพฤติกรรมของเจน วาย บนโซเชียล  พบว่าความหวัง หรือความฝัน “ของมันต้องมี” ก่อนอายุ 40 คือ  อยากมีบ้าน สัดส่วน 48% ของผู้ตอบแบบสอบถาม รถยนต์ 22%  เงินออมและสินทรัพย์อื่นๆ 13%  แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจริงมียอดใช้จ่ายในกลุ่มสินค้า “ของมันต้องมี” ถึง 69% ส่วนใหญ่เป็นการซื้อโทรศัพท์ เสื้อผ้า เครื่องสำอาง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ กระเป๋า และนาฬิกา/เครื่องประดับ ขณะที่การซื้อบ้าน ซื้อรถ และออมเงินมีไม่ถึง 10 %

อย่างไรก็ตามเจน วาย หมดเงินไปกับ “ของมันต้องมี” ปีละ 95,518  บาท หรือหรือ 1 ใน 4 ของรายได้ต่อปีที่ 337,694 บาท จากคนในกลุ่มเจน วายที่มีอยู่ทั้งหมด 14.4 ล้านคน  หมดเงินไปกลับ “ของมันต้องมี” ถึงปีละ 1.37 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นมูลค่าสูงเทียบได้กับ 13% ของรายได้ประเทศ (GDP) หรือ 8 เท่าของมูลค่าโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน หรือ 91% ของมูลค่าการลงทุนในโครงการอีอีซี 

ทั้งนี้สาเหตุของเจน วาย อยากได้ “ของมันต้องมี”  เป็นเพราะซื้อตามเทรนด์กลัวเอ้าท์  42% ซึ่งสูงกว่ามองเป็นของจำเป็นที่มีสัดส่วน  37 % แถมเงินที่ใช้ซื้อนั้น คนส่วนใหญ่ 70% บอกมีเงินไม่พอ  และมีสัดส่วนถือ 50 % ใช้การกู้จากธนาคารหรือผู้อื่น  หรือใช้บัตรเครดิตกับบัตรกดเงินสดในการใช้จ่าย และยังพบว่ามากกว่า 70% ของเจน วาย  มีการผ่อนชำระที่ต้องเสียดอกเบี้ย ขณะที่ข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พบว่า กลุ่มเจน วาย  มีการกู้ 7.2 ล้านคน หรือ 50% ของเจน วาย ทั้งหมด โดยมีภาระหนี้อยู่ที่ 423,000 บาทต่อคน และมีสัดส่วน  20% ของเจน วายที่กู้ หรือ 1.4 ล้านคนเป็นหนี้ผิดนัดชำระ ซึ่งคิดเป็น 7.1% ของสินเชื่อทั้งหมดที่มีการผิดนัดชำระ 

นายนริศ กล่าวอีกว่า หากเจน วาย ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมมีวินัยทางการเงิน ลดเงินที่ใช้กับของมันต้องมี  50 %   จะมีเงินสะสมเพิ่มขึ้น 43,000 บาทต่อปี  เมื่อเวลาผ่านไป 10 ปี  สามารถซื้อรถยนต์โตโยต้า หรือ 30 ปี สามารถซื้อคอนโดมิเนียมย่านหัวขวาง ยูนิตละ  2.5 ล้านบาท