- ตัดโควตาอีก 3 ล้านใบ
- ดึงเข้าดิจิทัล 2 ล้าน
- จองซื้อ 1 ล้าน
นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากร ในฐานประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า ในการประชุมบอร์ดสลากวันนี้ (17 ก.พ.) ได้มีการหารือเรื่องผลิตภัณฑ์ใหม่ ทั้งสลากเลข 6 ตัว (แอล 6) และสลากเลข 3 ตัว (เอ็น 3) ด้วย หลังจากที่เคยเสนอเรื่องดังกล่าวถึงกระทรวงการคลังแล้ว และยังมีความเห็นเรื่องการปรับปรุงรายละเอียดอีกเล็กน้อย บอร์ดจึงปรับปรุงอีกครั้ง แล้วจึงกลับมาเสนอที่กระทรวงการคลัง ก่อนที่จะนำเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี เป็นลำดับถัดไป
“เรื่องนี้เคยเสนอให้คลังพิจารณาไปแล้วเมื่อต้นปี แล้วก็นำกลับมาทบทวนในรายละเอียดใหม่อีกครั้ง ก่อนเสนอ ครม. พิจารณา จริงๆ เราอยากเริ่มให้ได้เร็วที่สุด คงไม่เกินปีนี้แน่นอน โดยจำเป็นต้องพิจารณากระบวนการ ขั้นตอน และวิธีการต่างๆ อย่างละเอียดรอบคอบที่สุด เพราะสำนักงานสลากฯ เองก็ต้องการให้มั่นใจที่สุดว่าจุดที่เรากำลังดำเนินการอยู่นั้นจะดีพอไปแข่งขันกับหวยใต้ดินได้ จะสามารถแบ่งส่วนแบ่งตลาดจากหวยใต้ดินได้” นายลวรณกล่าว
ทั้งนี้ รายละเอียดของผลิตภัณฑ์ใหม่ ในส่วนของแอล 6 ซึ่งคล้ายกับสลากปัจจุบัน แต่ไม่ต้องพิมพ์เป็นใบ ส่วนสลากเอ็น 3 ในเรื่องรางวัล กับราคาขายนั้นยังไม่ชัดเจน แต่วิธีการขายนั้น จะเป็นแบบผสมผสานใช้เทคโนโลยีดิจิทัล โดยตัวแทนจำหน่ายขายให้ประชาชน แบบจดกระดาษตามกำหนด และผู้ขายจะส่งข้อมูลการขาย แบบเคลียร์วันต่อวัน ผ่านระบบดิจิทัล ให้กับสำนักงานสลาก
“ยืนยันว่าปีนี้ สำนักงานสลากจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งแอล 6 และ เอ็น 3 ออกมาแน่นอน หากได้เสนอ และผ่านความเห็นชอบจาก ครม. ก็ถือว่านับเป็นวันแรก หรือวันที่ 1 ในการดำเนินงานได้เลย” นายลวรณ กล่าว
นายลวรณ กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกัน บอร์ดยังได้หารือ เรื่องการตัดสิทธิผู้ค้าเพิ่มขึ้น อีกกว่า 1.2 หมื่นราย หลังจากก่อนหน้านี้ ได้ตัดสิทธิไปแล้วกว่า 6 พันราย ทำให้สรุปรวมมีผู้ค้าถูกตัดสิทธิจำนวน 1.8-2 หมื่นราย คิดเป็นจำนวนสลากที่ยึดคืนมาทั้งหมด 3 ล้านใบ ซึ่งบอร์ด ได้มีมติว่า จะนำสลากดังกล่าวไปจัดสรรให้ผู้ค้าในระบบต่อไป โดยแบ่งเป็น 2 ล้านใบ เข้าสู่ระบบสลากดิจิทัล ในแอพพลิเคชั่น เป๋าตัง
ส่วนอีก 1 ล้านใบ จะเข้าสู่ระบบการจองซื้อ เนื่องจากที่ผ่านมามีกระแสเรื่องการแย่งโควตากัน และผู้ค้าบางส่วนเข้าไม่สามารถถึงสลากจองซื้อได้ จึงได้นำส่วนที่ยึดมา กลับเข้าสู่ระบบการจองซื้ออีกครั้ง เพื่อลดปัญหาการแย่งสลาก และผู้ค้าไม่โอกาสเข้าจองซื้อสลากมากขึ้น
ขณะที่ สลากอีก 11 ล้านฉบับ ที่มีการนำไปขายต่อให้กับแพลตฟอร์มเอกชน สำนักงานสลากจะเร่งตรวจสอบ เพื่อดำเนินการบอกเลิกสัญญา หรือยกเลิกสิทธิการเป็นผู้ลงทะเบียน ซื้อจองล่วงหน้า ไปจำหน่ายต่อไป
