ทอท.ลั่น! ผลสอบข้อเท็จจริงเหตุกำแพงอาคาร เซอร์วิส ฮอล์ รับกรุ๊ปทัวร์ สนามบินดอนเมือง ถล่ม! ไม่มีคนผิด

  • ชี้เหตุเกิดจากฝนตกหนัก ยันไม่ขึ้นแบล็กลิสต์ “เพาเวอร์ ไลน์” ผู้รับเหมา เหตุไม่ทิ้งงาน 
  • เจ้าหน้าที่ตรวจรับถูกต้องตามมาตรฐานวิศวกรรม  
  • เดินหน้าเปิดอาคารกรุ๊ปทัวร์ขานรับปริมาณนักท่องเที่ยวฟื้นตัวแรง 70%

นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (สายงานวิศวกรรมก่อสร้าง) บริษัท ท่าอากาศยานไทยจำกัด(มหาชน) (ทอท.) เปิดเผยว่า   จากกรณีกำแพงอาคาร Service  Hall หรือ เซอร์วิส ฮอล์ ซึ่งเป็นอาคารับผู้โดยสารที่เป็นกรุ๊ปทัวร์ สนามบินดอนเมือง ได้พังถล่มเมื่อ 18 เม.ย.65 และทางกระทรวงคมนาคมได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสวบสวนข้อเท็จจริง ที่มีนายพิศักดิ์ จิตวิริยวศิน รองปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธานนั้น ขณะนี้ผลสอบสรุปว่า ไม่มีผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดจนเป็นเหตุให้อาคารถล่ม เนื่องจากอาคารได้มีการดำเนินการตามแบบ ที่ได้มีการออกแบบและเมื่อมีการก่อสร้างก็มีการดำเนินการ ส่วนการตรวจรับงานก็ดำเนินการตามหลักวิศวกรรมทุกประการและเมื่อเกิดเหตุการณ์อาคารก็ยังอยู่ในการประกัน ดังนั้น จึงเป็นความรับผิดชอบของ บริษัท เพาเวอร์ ไลน์ ซึ่งเป็นบริษัทรับเหมาที่ดำเนินการก่อสร้างอาคารดังกล่าว และขณะนี้ได้ดำเนินการซ่อมแซมปรับปรุงให้มมีความแข็งแรงแล้วเสร็จ พร้อมที่จะเปิดให้ใช้งานในวันพรุ่งนี้ (8 ก.พ.66) 

อย่างไรก็ตามในการซ่อมแซมปรับปรุงอาคารดังกล่าว ทางบริษัทผู้รับเหมาได้ ดำเนินการและเป็นผู้รับผิดชอบในการซ่อมแซมทั้งหมด นอกจากนั้นยังได้มีการเสริมตัวรับคานเพิ่มเติม รวมถึงทำผนัง และรางน้ำใหม่ มูลค่ารวมกว่า 12.9 ล้านบาท เนื่องจากยังอยู่ในระยะประกันที่จะครอบคลุมถึงเดือน ส.ค.66 ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายได้มีข้อสงสัยว่าโครงสร้างอาคารซึ่งเป็นเหล็กไม่มีเสาเข็มรองรับอาคารในเรื่องดังกล่าวนั้นขอชี้แจงว่า  ถึงแม้จะมีการออกแบบเป็นโครงสร้างเหล็กแต่การก่อสร้าง อยู่บนฐานรากและเสาเข็มของอาคารที่จอดรถเดิม ดังนั้นในเรื่องของการรองรับน้ำหนักไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ขณะเดียวกันทางสภาวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย และสภาสถาปนิก ได้มีการตรวจรับทดสอบน้ำหนักของอาคาร พบว่าการออกแบบได้มีการคำนวณพื้นที่ใช้สอยอาคารกว่า 800 ตารางเมตร ให้รองรับได้500 กิโลกรัม/ตารางเมตร -900 กิโลกรัม/ตารางเมตร  หรือในช่วงที่มีกรุ๊ปทัวร์จำนวนมากจะสามารถรองรับได้ถึง3,000 คน นอกจากนั้น ทอท. ไม่ได้ขึ้นบัญชีดำ กับบริษัทดังกล่าว เนื่องจากบริษัทไม่ได้เป็นผู้ละทิ้งงาน เมื่อเกิดปัญหาก็เข้ามาแก้ไขและปรับปรุงให้กลับมาอยู่ในสภาพใช้งานได้

ด้านนายการันต์ ธนกุลจีรพัฒน์ ผู้อำนวยการสนามบินดอนเมือง เปิดเผยว่า อาคาร Service Hall แห่งนี้เตรียมเปิดให้บริการผู้โดยสารในวันที่ 8 ก.พ.66 ตั้งอยู่บริเวณลานจอดรถรับนักท่องเที่ยว (ATTA) ติดอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ อาคาร 1 ด้านทิศเหนือของ สนามบินดอนเมืองรองรับผู้โดยสารได้ 3,000 คน ซึ่งสิ่งความสะดวกในอาคารครบครันไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ ที่นั่งพักคอย 800 ที่นั่ง จุดชาร์จอุปกรณ์ไฟฟ้า จุดแพ็คสัมภาระ รวมถึงจุดคืนภาษีมูลค่าเพิ่มแห่งใหม่ (VAT Refund) 

นายการันต์ กล่าวต่อว่า ภาพรวมของปริมาณผู้โดยสารที่เดินทางผ่านสนามบินดอนเมืองในช่วงเดือน ม.ค.ที่ผ่านมาอยู่ที่ 70,000 คน/วัน แบ่งเป็น ผู้โดยสารระหว่างประเทศ 17,000 คน/วัน และผู้โดยสารภายในประเทศ 53,000 คน/วัน คิดเป็นปริมาณการฟื้นตัว 70% เมื่อเทียบกับช่วงปี 62 ซึ่งมีผู้โดยสารผ่านสนามบินดอนเมืองราว 110,000 คน/วันขณะที่ปริมาณเที่ยวบินรวมทั้งสิ้น 450 เที่ยวบิน/วัน แบ่งเป็น เที่ยวบินระหว่างประเทศ 130 เที่ยวบิน/วัน และ เที่ยวบินในประเทศ 320 เที่ยวบิน/วัน คิดเป็นการฟื้นตัวอยู่ที่เกือบ 70% เช่นเดียวกับปริมาณของผู้โดยสาร

นายการันต์ กล่าวถึงการเดินทางเข้ามาของกรุ๊ปทัวร์จีน ภายหลังจากทางการจีนจะเริ่มอนุญาตให้ชาวจีนเดินทางไปท่องเที่ยวแบบหมู่คณะว่า คาดการณ์จำนวนผู้โดยสารชาวจีนในภาพรวมที่เดินทางผ่านสนามบินดอนเมืองในเดือนก.พ.-ม.ค.66 จะอยู่ที่ 54,000 คนเดือน เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือน ม.ค.66 ซึ่งอยู่ที่เพียง 22,000 คน/เดือน

ส่วนด้าน รศ.เอนก ศิริพานิชกร ประธานสาขาวิศวกรรมโยธา วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) กล่าวว่า การปรับปรุงอาคาร Service Hall นั้นมีความแข็งแรงและปลอดภัยตามมาตรฐานสากล ภายใต้การกำกับดูแลของ สภาวิศวกร สภาสถาปนิก วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และวิศวกรวิชาชีพที่เป็นผู้รับรองงานแก้ไขซ่อมแซมอาคาร Service Hall จาก 3 หน่วยงาน อาทิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) และบริษัท เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) โดยการปรับปรุงนั้นเน้นไปที่การเพิ่มความแข็งแรงของวัสดุก่อสร้าง และการลดน้ำหนักของโครงสร้างอาคาร รองรับน้ำหนักได้ตามมาตรฐานความปลอดภัยที่ 500 กิโลกรัม/ตารางเมตร 

ส่วนประเด็นผนังกำแพงที่เคยพังเสียหายนั้น มั่นใจว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้นอีก เนื่องจากมีการเสริมกำแพงด้วยผนังสมาร์ทบอร์ด และ เสริมความแข็งแรงด้วยฉนวนใยแก้ว (Micro Fiber) ตลอดจนการเสริมคานรับน้ำหนักและปรับรางระบายน้ำ เพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพ ตลอดจนเพิ่มความแข็งแรงเพื่อรับมือพายุฝนที่รุนแรงในอนาคต