ทอท.คุยลั่นทุ่งปี 64 กำไรพุ่ง 5 หมื่นล้าน

  • ลุยเตรียมนำเสนอโครงการก่อสร้างส่วนต่อขยายด้านทิศเหนือ
  • ตั้งเป้าปี 67 สนามบินสุวรรณภูมิจะรองรับผู้โดยสารได้รวม 82 ล้านคน
  • คาดผลประกอบปีนี้ปิดที่กำไรสุทธิ 25,000 ล้านบาท

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ ผู้อำนวยการใหญ่บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เปิดเผยว่า ทอท.เตรียมนำเสนอโครงการก่อสร้างส่วนต่อขยายด้านทิศเหนือ (เทอร์มินัล2 เดิม) วงเงิน 42,000 ล้านบาท ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เข้าสู่การพิจารณาขอ การประชุมบอร์ดทอท.ในวันที่ 20 พ.ย. นี้ หากอนุมัติจะเสนอให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาต่อไป และ เข้าสู่ขั้นตอนการขอความเห็นจากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช. และเสนอให้ครม. พิจารณาอนุมัติ คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี 66-67 ช่วยแก้ปัญหาแออัด คาดว่าจะรองรับผู้โดยสารได้เพิ่มอีก 40 ล้านคน ซึ่งจะทำให้ปี 67 สนามบินสุวรรณภูมิจะสามารถรองรับผู้โดยสารได้รวม 82 ล้านคน

สำหรับปัจจุบัน ทอท. มีกระแสเงินสดจากค่าธรรมเนียมค่าบริการผู้โดยสารขาออก (PSC)โดยรวมทั้งสิ้น 72,000 ล้านบาท ทั้งนี้หากคิดบนพื้นฐานที่ PSC เติบโตเป็น 0% คาดว่า ทอท.จะมีอิบิด้าราว 40,000 ล้านบาท/ปี โดยในปี 2567 ทอท. จะมีเงินเข้ามาอีก 2แสนล้านบาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 270,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินสดที่ ทอท.สามารถนำมาใช้ในการพัฒนาสนามบินในอนาคตได้ต่อไป

นายนิตินัย กล่าวถึงผลประกอบการปี 62 ว่า คาดว่าจะใกล้เคียงกับปี 2561 ที่มีกำไรสุทธิ 25,000 ล้านบาท ส่วนในปี63 คาดว่าผู้โดยสารจีนและอินเดีย จะกลับมาทำให้อัตราเติบโตกลับมาเป็นปกติคือ 5-6% สูงกว่าปีก่อนหน้าที่เติบโตแค่ 1.7% ซึ่งเติบโตต่ำกว่าปกติจากการปราบทัวร์ศูนย์เหรียญ และนักท่องเที่ยวจีนยกเลิกเที่ยวบินจากกรณีเรื่อล่มภูเก็ต ทำให้รายได้เติบโตมากกว่า 6% แต่ไม่เกิน 10% โดนยจะรับรู้รายได้จากกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เจ้าของสัมปทานดิวตี้ฟรี ในสัญญาเดิมที่จะหมดอายุราว 8500-8800 ล้านบาท ขณะที่รายจ่ายจะเติบโตมากผิดปกติ เนื่องจากมีภาระค่าใช้จ่ายในการรับพนักงานเพิ่มจำนวนมากในช่วงเดือนม.ค.ปี 63 เพื่อรองรับการเปิดอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (แซทเทิ้ลไลท์)

ส่วนปี 64 คาดว่า ผลประกอคาดว่าจะมีกำไรสุทธิจากการดำเนินการ 4-5 หมื่นล้านบาท เนื่องจากจะมีการรับรู้รายได้ขั้นต่ำจากโครงการดิวตี้ฟรีโครงการใหม่จากกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ 24,500 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ในระยะยาวทอท. จะใช้วงเงินลงทุนเพิ่มจากกว่า 200,000 ล้านบาท เป็นกว่า 300,000 ล้านบาทเนื่องจากมีการลงทุนเพิ่มในโครงการก่อสร้างส่วนต่อขยายด้านทิศเหนือ(เทอร์มินัล2 เดิม) และการรับบริหาร 3 สนามบินของกรมท่าอากาศยาน