โดนัลด์ ทรัมป์ เผย เตรียมออกจากโรงพยาบาล บอกประชาชน อย่ากลัวโควิด ขณะที่แพทย์แถลง ประธานาธิบดีอาการดีขึ้น ผ่านเงื่อนไขออกจากโรงพยาบาล ล่าสุดมีรายงานว่าเขากลับถึงทำเนียบขาวและพร้อมที่จะกลับไปรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบสหรัฐต่อไป
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ประกาศผ่านข้อความทวิตเตอร์ในวันจันทร์ที่ 5 ต.ค. 2563 ว่า เขาจะออกจากศูนย์การแพทย์ทหารแห่งชาติ ‘วอลเตอร์ รีด’ ในเวลา 18:30น. ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากนอนรักษาโรคโควิด-19 มา 4 วัน
“รู้สึกดีจริงๆ !” นายทรัมป์ระบุในทวิตเตอร์ “อย่ากลัวโควิด อย่าปล่อยให้มันครอบงำชีวิตคุณ เราพัฒนาแล้ว ภายใต้รัฐบาลทรัมป์ มีทั้งยาและความรู้ที่ยอดเยี่ยม ผมรู้สึกดีกว่าที่เคยรู้สึกเมื่อ 20 ปีก่อนเสียอีก”
ต่อมาทีมแพทย์นำโดย ดร. ชอน คอนลีย์ หมอประจำทำเนียบขาว ออกแถลงการณ์ความคืบหน้าอาการของน “ทรัมป์” โดยระบุว่า ประธานาธิบดีอาการดีขึ้นเรื่อย ตลอด 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และผ่านเงื่อนไขพื้นฐานทั้งหมดที่จะได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว เขาไม่มีไข้มานานกว่า 72 ชม. และระดับออกซิเจนในเลือดก็ปกติทุกอย่าง
ดร.คอนลีย์ยอมรับว่า “ทรัมป์” ยังไม่ผ่านพ้นอันตรายอย่างสิ้นเชิง แต่เขาปลอดภัยพอที่จะกลับไปทำเนียบขาว ที่เขาจะห้อมล้อมไปด้วยการดูแลรักษาระดับโลกตลอด 24 ชั่วโมง และหากผ่านวันจันทร์ไปได้โดยที่นายทรัมป์อาการยังคงเดิมหรือดีขึ้น ทีมแพทย์จะสบายใจยิ่งขึ้นอีก
ด้าน ดร.ไบรอัน การิบัลดี กล่าวว่า “ทรัมป์” จะได้รับยาต้านไวรัส ‘เรมดิซิเวีย’ โดสที่ 4 ก่อนออกจากโรงพยาบาล และรับโดสที่ 5 กับ 6 ซึ่งเป็นโดสสุดท้ายในวันอังคาร นอกจากนี้ นายทรัมป์จะรับยา เดกซาเมทาโซน ซึ่งปกติจะให้กับผู้ป่วยโควิดอาการหนักต่อไปด้วย
อย่างไรก็ตาม ความคืบหน้าล่าสุด เกิดขึ้นท่ามกลางคำถามมากมายในเรื่องความรุนแรงของอาการป่วยของ “ทรัมป์” หลังจากช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แพทย์กับเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวให้ข้อมูลขัดแย้งกัน ขณะที่ยังไม่ชัดเจนว่าการระบาดที่ทำเนียบขาวมีขอบเขตมาเพียงไร
จนถึงตอนนี้มีคำใกล้ชิด “ทรัมป์” อย่างน้อย 12 คนแล้วที่ผลตรวจโควิด-19 เป็นบวก รวมถึงเมลาเนีย ทรัมป์ สภาพสตรีหมายเลข 1, โฮป ฮิกส์ ผู้ช่วยคนสนิท, เคย์ลี แมคเอนานี เลขาธิการฝ่ายสื่อ, คริส คริสตี ที่ปรึกษาทีมหาเสียง และ บิล สเตเปียน ผู้จัดการทีมหาเสียง โดยเกือบทั้งหมดร่วมงานอีเวนต์ที่ทำเนียบขาวเมื่อ 26 ก.ย. ด้วย
ขณะที่การแถลงข่าวในวันจันทร์ เป็นอีกครั้งที่ ดร.คอนลีย์ ไม่ยอมเปิดเผยว่า “ทรัมป์” มีผลตรวจโควิดเป็นลบครั้งสุดท้ายเมื่อไร ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญที่จะชี้ว่า นายทรัมป์นำไวรัสไปติด หรือไปติดไวรัสจากใครมาหรือไม่
