“ทรัมป์” ติดโควิด คาใจการเลือกตั้งปธน.สหรัฐขึ้นวันที่ 3 พ.ย.นี้จะเดินหน้าต่อไปหรือไม่ การดีเบต ครั้งต่อไปจะวิธีการไหน

  • แพทย์ประจำทำเนียบขาวออกโรงยันเขายังสบายดี
  • ผู้นำ “อังกฤษ-อิสราเอล” อวยพรให้เขาและภรรยาหายไวๆ

หลังจาก ประธานาธิบดี “โดนัลด์ ทรัมป์” ประกาศติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มีผลเป็นบวกพร้อมสุภาพสตรีหมายเลข 1  “เมลาเนีย ทรัมป์” ภรรยาวัย 50 ปี จากทำการตรวจเชื้อ หลังจากที่ปรึกษาและผู้ช่วยคนสนิทของเขา “โฮป ฮิกส์” วัย 31 ปีที่ติดตามเขาตลอด มีผลตรวจเชื้อเป็นบวกก่อนหน้านี้ และเขาประกาศว่าจะทำการกักกันตนเองในทำเนียบขาวเพื่อรักษาตัวตามกระบวนการรักษาโรคต่อไปนั้น

“ฌอน คอนลีย์”  แพทย์ประจำทำเนียบขาวออกแถลงการณ์ ประธานาธิบดีทรัมป์และสุภาพสตรีหมายเลข 1 ยังคงสบายดี ไม่มีอาการป่วยในขณะนี้ และจะยังคงอยู่ที่บ้านพักในทำเนียบขาว ระหว่างการพักฟื้น

โฮป ฮิกส์ ซ้ายสุด ที่ปรึกษาและคนสนิทของ ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ที่คอยติดตามเขาติดเชื้อโควิดก่อนที่ เขาจะออกมาแถลงว่าติดเชื้อ

“ผมคาดว่าท่านประธานาธิบดีจะยังคงปฏิบัติภารกิจในตำแหน่งอย่างไม่ต้องหยุดชะงัก ระหว่างการพักฟื้น และจะมีการรายงานความคืบหน้าโดยตลอด” แถลงการณ์ที่ออกมาท่ามกลางความวิตกกันว่า เขาอาจความเสี่ยงมากขึ้นจากอาการแทรกซ้อนจากการติดเชื้อโควิด

ผลกระทบที่เกิดขึ้นทันที โดยตลาดหุ้นฟิวเจอร์ของสหรัฐ S&P 500 ลดลงทันที 1.21% ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินปอนด์, ดอลลาร์ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ซึ่งเป็นสัญญาณการบ่งบอกถึงการไม่รับความเสี่ยง สำหรับตลาดหุ้นญี่ปุ่นติดลบ 0.69% ตลาดหุ้นออสเตรเลียลดลง 0.98% ส่วนตลาดหุ้นไทยช่วงบ่าย ติดลบไป 12.12 จุดหรือ 0.97% ตลาดหุ้นอังกฤษ ฟิวเจอร์ส FTSE ลดลง 1.02% ทางด้านราคาน้ำมัน ตลาดน้ำมัน Brent ณ เวลา 05.16 ตามเวลามาตรฐานกรีนิช ขานรับข่าวทันที ลดลง 78 เซ็นต์หรือ 1.9% ที่ 40.53 ดอลลาร์ต่อบาเรล ส่วนยูเอสออย ลดลง 79 เซ็นต์ หรือ 2% ที่ 37.93 ดอลลาร์ต่อบาเรล

เขาเป็นผู้นำคนสำคัญของโลกที่ติดเชื้อโควิดรายล่าสุด นับตั้งแต่เจ้าชายอัลเบิร์ตที่ 2 แห่งโมนาโก 19 มีนาคม, บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรี อังกฤษ, ฌาอีร์ โบลโซนารู ประธานาธิบดีบราซิล 5  โดย บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรี อังกฤษ ได้อวยพรให้ “ทรัมป์” และภรรยาของเขาหายป่วยจากโควิดเร็วๆ รวมทั้ง “เบนจามิน เนทันยาฮู” ผู้นำอิสราเอล ได้อวยพรผ่านทวิตเตอร์ให้เขาและภรรยาหายป่วยเร็วๆ เช่นกัน  

ยังมีคำถามว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ที่จะมีขึ้นวันที่ 3 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้จะยังคงเดินหน้าต่อไปหรือไม่ และการดีเบตจะทำด้วยวิธีการไหน

ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวบลูมเบิร์กได้จัดทำสกู๊ปไว้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างหาก “ทรัมป์” ติดโควิด ผลกระทบทางการเมืองและเศรษฐกิจในแง่ลบอย่างรุนแรง ส่วนจะเลวร้ายแค่ไหนนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าอาการป่วยนั้นหนักขนาดไหน และขึ้นอยู่กับว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯจะหมดความสามารถในการบริหารประเทศหรือไม่

เอียน เบรมเมอร์ ประธานบริษัท Eurasia Group ซึ่งเป็นบริษัทให้คำปรึกษาด้านความเสี่ยงทางการเมือง  ได้ให้สัมภาษณ์ว่าหลังจากมีการวินิจฉัยอาการจนพบว่าติดเชื้อแล้ว สิ่งที่จะตามมาก็คือหุ้นในตลาดหุ้นที่จะตกทันที 

“ถ้าหากเขาต้องกักตัวเอง แต่ยังคงมีอำนาจสั่งการรัฐบาล และยังคงทวีตแบบที่เขาทำทุกวันนี้ ผมคิดว่าผลกระทบต่อตลาดหุ้นนั้นน่าจะน้อยมาก” นายเอียนกล่าว

แต่หากอาการเขาหนักมากจนทวีตไม่ไหว ในรัฐธรรมนูญสหรัฐฯที่ระบุไว้ในการปรับแก้ครั้งที่ 25 อนุญาตให้ประธานาธิบดีสหรัฐฯส่งต่ออำนาจการปฏิบัติหน้าที่ไปให้กับรองประธานาธิบดี และสามารถเรียกอำนาจนั้นคืนได้ ถ้าหากเห็นว่าตัวเองพร้อมปฏิบัติหน้าที่