- ททท.เคลื่อนทัพใหญ่ปั๊มตลาดในประเทศกระหึ่มประเทศ ส.ค.-ธ.ค.65
- ผุด 4 โปรเจ็กต์ 8 แคมเปญ เริ่มขายแล้ว Stylecation เที่ยวไทยสไตล์ที่ชอบ
- ต่อด้วย “เที่ยวไทยให้หายคิดถึง+เมืองรองไม่รู้ลืม 55 จังหวัด พ.ย.นี้
- ฮือฮากับ Workation Amazing New Chapters : 100 เดียวเที่ยวได้งาน
- ระดมพันธมิตรแจกโปรเบิ้ม ๆ 1,000 แพ็ก เทขาย 11 เดือน 11 และ 12 เดือน 12
- โดดช่วยธุรกิจรถบัสจัด “อะเมซิ่ไทยแลนด์ รถทัวร์ทั่วไทย” และเที่ยวกับ Grab ปิดท้ายผนึกรถ EV บูมเที่ยวไทยโลว์คาร์บอน
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่าได้วางแผนตลาดท่องเที่ยวส่งท้ายปีงบประมาณ 2565 เดือนสิงหาคม-กันยายน นี้ก้าวสู่ปี 2566 ไตรมาสแรกตุลาคม-ธันวาคม 2565 เตรียมขับเคลื่อนกิจกรรมกระตุ้นไทยเที่ยวไทย 4 โครงการ เดินหน้าทำกิจกรรมเชิงรุก 8 เแคมเปญ นำร่องต้นเดือนสิงหาคมนี้ โครงการแรก ชวนเที่ยวไทย…แบบที่ใช่ สไตล์ที่ชอบ ด้วยแคมเปญแรก“Stylecation : ชวนเที่ยวไทย…แบบที่ใช่ สไตล์ที่ชอบ” ครอบคลุม 5 ภาค ปักหมุดให้ประเทศไทยเป็นสถานที่สไตล์เคชั่นที่ดีที่สุดของคนไทยและต่างชาติ โดยได้เปิดตัวบาริสต้า “พีพี-บิวกิ้น” ผู้นำทางความคิดมาเป็นเทรนด์ เซ็ตเตอร์กิจกรรมการท่องเที่ยว
ต่อด้วย แคมเปญที่ 2 “เที่ยวไทย ให้หายคิดถึง” พร้อมตอบโจทย์นักท่องเที่ยวหากคิดถึงสถานที่ใด ททท.พร้อมจัดให้ทันทีด้วยกิจกรรมส่วนลด ที่พัก ร้านค้า ร้านอาหาร ควบคู่กับการทำแคมเปญออนไลน์ขายเป็นวงล้อให้หายคิดถึงเลือกปุ๊บได้ปั๊บเดินทางท่องเที่ยวได้ทันที
โครงการที่ 2 กระตุ้นการท่องเที่ยวเมืองรอง 55 จังหวัด เปิดแคมเปญที่ 3 “เปิดประสบการณ์ใหม่เมืองรอง ไม่รู้ลืม” เน้นการเดินทางท่องเที่ยวด้วยรถหรือ Roadtrip จะต้องสร้างความประทับใจและตอบโจทย์ความคุ้มค่าหรือMeaningful travel ด้วยการผสมผสานคอนเทนท์เข้าไปพร้อมทั้งชูขายกิจกรรมทำงานเที่ยวได้ด้วยหรือ Workation จัดกิจกรรมสร้างกระแสไปจนถึงปลายปีนี้ ซึ่งทำเสร็จเรียบร้อยแล้วคือ Workation Paradise throughout Thailand 5 ภาค
ส่งผลให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวในไทยขณะนี้เริ่มปรับตัวหันมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างจุดขายworkation กันมากขึ้น ด้วยกลยุทธ์การแปลงโฉมสถานที่ทำงานกับแหล่งท่องเที่ยวให้เป็นแห่งเดียวกัน ทำงานที่ไหนก็ได้ทั่วประเทศไทย
จากนั้นปลายปี 2565 ททท.เตรียมจัดใหญ่เปิดตัว แคมเปญที่ 4 “Workation Amazing New Chapters : 100 เดียวเที่ยวได้งาน” นำเสนอแพกเกจราคาเพียง 100 บาท สามารถทั้งเที่ยวและทำงานได้ วางแผนเชิญชวนพันธมิตรเข้าร่วมขายสักประมาณ 10,000 แพ็ก ให้สิทธิ์นักท่องเที่ยวเข้ามาจองซื้อได้ช่วง วันที่ 11 เดือน 11 (วันที่ 11 พฤศจิกายน 2565) และวันที่ 12 เดือน 12 (วันที่ 12 ธันวาคม 2565)
ควบคู่กับการจับมือกับพันธมิตรในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวร่วมทำแคมเปญโปรโมชั่น Joint Promotion แสดงพลังให้เห็นความยิ่งใหญ่อีกครั้ง ขณะนี้ ททท.ริเริ่มทำกับนกแอร์โดยเปิดเส้นทางบินเที่ยว กรุงเทพฯ สู่สนามบินเบตง จ.ยะลาช่วง 3 เดือนแรกระหว่างพฤษภาคม-กรกฎาคม 2565 ตอนนี้ได้ขยายโปรโมชั่นเที่ยวเบตงต่อช่วงสิงหาคม-กันยายนนี้ และจะเพิ่มสิทธิ์ต่อไปในปีงบประมาณ 2566 ด้วย
ระหว่างกันยายน-ตุลาคม นี้ เตรียมจัด แคมเปญที่ 5 “อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ รถทัวร์ทั่วไทย” เร่งช่วยผู้ประกอบการรถทัวร์ ทำโปรโมชั่นร่วมกันขายแพกเกจเที่ยว 2 วัน 1 คืน เชิญชวนคนหันมานั่งรถบัสท่องเที่ยวในพื้นที่ข้ามจังหวัดหรือข้ามภาค กระจายเดินทางเที่ยวตามธีม 5 ภาค
สำหรับแคมเปญนี้ตั้งเป้าเจาะตลาด 8 กลุ่มได้แก่ 1.กลุ่มเพื่อน 1.กลุ่มทำงานเที่ยวได้ด้วย (workation) 3.กลุ่มผู้สูงวัย4.กลุ่มเกษียน 5.กลุ่มครอบครัว 6.กลุ่มนักศึกษา 7.กลุ่มคนวัยทำงาน 8.กลุ่มทั่วไป
จากนั้นก็จะมี แคมเปญที่ 6 “เที่ยวกับ Grab อะเมซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม” กระตุ้นนักเดินทางออกไปกิน ไปเที่ยว ไปร้านกาแฟตามสถานที่ต่าง ๆ เมื่อเลือกใช้บริการ Grab จะได้รับส่วนลดพิเศษในแต่ละภาคต่างกันไป เช่น “ภาคเหนือ” จังหวัดเชียงราย คัดร้านดังเข้าร่วมกิจกรรม 10 ร้าน “ภาคอีสาน” จังหวัดขอนแก่น เดินสายเที่ยว 10 วัด “ภาคใต้” จังหวัดภูเก็ต เลือกเช็คอิน 10 สถานที่สวยงาม
โครงการที่ 3 กระตุ้นการท่องเที่ยวรักษาสิ่งแวดล้อม ททท.ร่วมกับพันธมิตร GWM : Great Wall Motor จัดทริปท่องเที่ยวด้วยรถระบบพลังงานใหม่ EV และไฮบริด โดยลงนามเอ็มโอยูภายใต้ข้อตกลงสร้าง “ธรรมาภิบาล คาร์บอน” จะตอบโจทย์ยุทธศาสตร์การท่องเที่ยว BCG และ Happy Model ด้วยการสร้างสรรค์เส้นทางแห่งความสุขรองรับด้วยแคมเปญที่ 7 “ท่องเที่ยว โลว์คาร์บอน” กระจายไปตามจังหวัดต่าง ๆ เริ่มจากภาคกลาง Trendy C2 เที่ยวลพบุรี 2 วัน1 คืน หรือจากกรุงเทพฯ ปลายทางสายกรีน Green Route ทั่วประเทศ
โครงการที่ 4 Thailand All Year in Around เที่ยวได้ทั้งปีต้อนรับปีงบประมาณ 2566 เตรียมเปิดตัวช่วงพฤศจิกายน2565 เป็นต้นไป เน้นผสมผสานกระตุ้นตลาด “ในประเทศ” โดยจะนำเสนอ แคมเปญที่ 8 “365 เมืองไทย เที่ยวได้ทุกวัน” ขณะนี้ ททท.สำนักงานทั่วประเทศ กำลังรวบรวมกิจกรรม แหล่งท่องเที่ยว สถานประกอบการ แหล่งดึงดูดความน่าสนใจ สถานบริการ ทุกหมวดสินค้าท่องเที่ยว ในแต่ละจังหวัดมีช่วงเวลาเหมาะสมช่วงวัน เวลาไหน เที่ยวอย่างไร มาแนะนำให้คนออกเดินทางไปได้ทุกวันตลอดทั้งปี
นางสาวฐาปนีย์ กล่าวเพิ่มว่า ปี 2566 จะให้ความสำคัญกับการนำยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวเชิงเศรษฐกิจชีวภาพหมุนเวียนสีเขียว BCG : Bio Circular Green และ Happy Model ของหอการค้าไทย นำไปสู่การท่องเที่ยวยั่งยืนเป็นพื้นฐานการเดินทางท่องเที่ยวทุกรูปแบบ ด้วยกลยุทธ์การร่วมกับผู้ประกอบการทุกภาคให้สอดแทรกทั้งสองเรื่องเข้าไปด้วย แต่ละภาคจะเสนออัตลักษณ์ความโดดเด่นให้เกิดเป็นรูปธรรม โดยมีตัวอย่างดังนี้
“ภาคใต้” จังหวัดภูเก็ต ดีไซน์เส้นทางการท่องเที่ยวเชิงอาหาร ทำโปรเจ็กต์ Island Coconut, BCG Trip การทำสปาทราย การเรียนรู้จับจักจั่นทะเลบวกวิถีชีวิตชุมชน และอื่น ๆ
“ภาคเหนือ” เน้นการขายเชื่อมโยงเมืองหลักกับเมืองรอง ผนวกกับ BCG เปิดการขายท่องเที่ยวทางรถ เน้นอาหารถิ่นเช่น เชียงใหม่ ท่องเที่ยวเชิงอาหารถิ่นหรู Local Luxury Gastronomy ชวนไปกินอาหารเชฟเทเบิ้ล เชียงใหม่ ลำพูนลำปาง ทั้งหมดจะใช้หลักลดขยะเป็นศูนย์ หรือ Zero Waste food โดยนำเอกลักษณ์ชุมชนเข้าไปด้วย
“ภาคกลาง” สอดแทรกเส้นทางเชิงประวัติศาสตร์ อย่าง ท่องเที่ยวทวารวดี ละโว้ อยุธยา โชว์ความโดดเด่นเรื่องท่องเที่ยวสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนและสร้างพื้นที่สีเขียว
“ภาคตะวันออก” ธีม สบ๊าย สบาย ตะวันออก สอดคล้องกับ Happy Model ตอบโจทย์การรักธรรมชาติ เกาะหมากเกาะกระดาด เป็นเกาะคาร์บอนต่ำและแหล่งอาหารออร์แกนิก
“ภาคอีสาน” ชูเที่ยวอีสาน 3 ธรรม “ธรรมะ-ธรรมชาติ-วัฒนธรรม” โดยเฉพาะ ธรรมชาติขายฤดูเดินทางอย่างหน้าฝนฤดูหมอก ส่วนธรรมะกระตุ้นสายศรัทธา สายมู และวัฒนธรรม ชวนเที่ยวงานประเพณี การกินอาหารถิ่นต่าง ๆ
นางสาวฐานปนีย์ยืนยันว่าการท่องเที่ยวเมืองไทยมีหลายมิติมาก จึงเชิญชวนให้มาช่วยกันค้นหาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ขณะนี้ ททท.และทุกหน่วยงาน ทุกคน ทุกกรม ทุกกระทรวง ตอนนี้ทั้งประเทศร่วมด้วยช่วยกัน เปิดประสบการณ์ อะเมซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม เพื่อให้ผู้คนได้เลือกในสิ่งที่ใช่ สไตล์ที่ชอบ แล้วออกไปตอบโจทย์ “การเที่ยวเมืองไทย” โดย ททท.ขอตอกย้ำมากคือเรื่องทรัพย์สินสำคัญทุกการเดินทางของทุกคนคือ รูปภาพ วิดีโอ แฮชแท็ก เมื่อได้รับประสบการณ์อันประทับใจ โปรดช่วยกันแชร์ลงบนโลกออนไลน์ แล้วทุกคนจะกลายเป็นผู้ที่ช่วยขายการท่องเที่ยวของประเทศทำให้คนทั่วโลกอยากเดินทางกลับเข้ามาเที่ยวเมืองไทยตลอด 365 วัน
เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza, www.facebook.com/penroongyaisamsaen
