ททท.ปลื้มกรุ๊ปทัวร์จีนวันแรก 3 สนามบินคึกคัก 13 เที่ยวบิน แอร์ไลน์สจีนลุยบินตรง ม.ค.-มี.ค. 2 พันเที่ยว 4.4 แสนที่นั่ง

  • ททท.ร่วมสถานฑูตจีนในไทย ต้อนรับ “กรุ๊ปทัวร์จีน” วันแรก 6 ก.พ.66 สปริงแอร์บินตรง กวางโจว-ดอนเมือง
  • ตลอดทั้งวันนี้ 3 สนามบินสุดคักคัก “ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-ภูเก็ต” รับจีน 13 เที่ยวบิน ม.ค.-มี.ค.นี้ แอร์ไลน์จีนแห่ขอบินเข้าไทยกว่า 2,000 เที่ยวบิน
  • กว่า 445,655 ที่นั่ง ดันยอดจีนเที่ยวไทยเข้าเป้าปี’66 เกินกว่า 5 ล้านคน

ดร.ยุทธศักดิ์  สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย และสายการบินสปริงแอร์ไลน์ ต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาไทยแบบกรุ๊ปทัวร์คณะแรก บินตรงจากนครกวางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน  ของสปริงแอร์ไลน์ เที่ยวบิน 9C7419 มาถึงสนามบินดอนเมือง กรุงเทพฯ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ 6 กุมภาพันธ์ 2566 โดยมีกรุ๊ปทัวร์จีน 2 คณะ รวม 40 คน และนักท่องเที่ยวจีนเดินทางด้วยตัวเอง (FIT) อีก 90 คน

โดยมี ผู้ว่าการ ททท. พร้อมด้วย Mr. Yang Xin อุปทูตรักษาราชการแทนเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ผู้บริหาร ททท. ต้อนรับกรุ๊ปทัวร์จีนทั้งสองคณะโดยได้ร่วมมอบของที่ระลึกและพวงมาลัยดอกไม้เพื่อสร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยว ตั้งแต่เดินทางถึงด้วยมิตรไมตรีอย่างอบอุ่น

ตลอดวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 ยังจะมีสายการบินอื่นอีก 13 เที่ยว นำนักท่องเที่ยวกรุ๊ปจีนมาไทยมาเป็นหมู่คณะจากกรุงปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ เฉิงตู เซียะเหมิน นานกิง และหนานหนิง เข้าสู่ประเทศไทยไทย 3 สนามบิน ได้แก่ ดอนเมืองสุวรรณภูมิ และภูเก็ต

ผู้ว่าฯ ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า กลุ่มนักท่องเที่ยวกรุ๊ปทัวร์จีนที่เดินทางมาท่องเที่ยวไทยมีโปรแกรมอยู่ในไทย 6 วัน เลือกเดินทางท่องเที่ยว กรุงเทพฯ – พัทยา (ชลบุรี) – ระยอง ตามแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยหลายแห่ง เช่น เกาะเสม็ด สวนนงนุชพัทยา วัดปากน้ำภาษีเจริญ พระบรมมหาราชวังและวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ย่านเยาวราช

นักท่องเที่ยวกรุ๊ปทัวร์ตลาดจีนที่กลับมาครั้งนี้เป็นสัญญาณดีกับเศรษฐกิจไทยในภาพรวม ทำให้ปีนี้ ททท.มีความท้าทายที่จะทำรายได้เพิ่มขึ้น ตามคาดการณ์จะมีนักท่องเที่ยวจีนมาไทยในไตรมาสแรก ระหว่างมกราคม-มีนาคม2566 ไม่น้อยกว่า 300,000 คน

ตามสถิติตั้งแต่ 1 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ 2566 มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางอิสระโดยลำพัง (F.I.T.) มาไทยแล้ว99,429 คน โดยมีสายการบินเปิดบริการ ระหว่างมกราคม – มีนาคม 2566 ด้วยจำนวนเที่ยวบินและที่นั่ง (Seat Capacity) จากสนามบินเมืองต่างๆ เช่น เซี่ยงไฮ้ กว่างโจว หางโจว หนานจิง เฉิงตู เซี่ยะเหมิน คุนหมิง รวมทั้งสิ้น2,000 เที่ยว จำนวน 445,655 ที่นั่ง

ส่วนกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาไทยช่วงแรก ประกอบด้วย นักธุรกิจ นักเรียน และกลุ่มนักท่องเที่ยวคนรุ่นใหม่ที่นิยมเดินทางด้วยตนเอง (F.I.T.) เป็นหลัก เติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไป ส่งสัญญาณดีจะเกิดการเดินทางต่อเนื่องตลอดปี 2566 ช่วยผลักดันเป้าหมายไทยมีนักท่องเที่ยวจีนถึง 5 ล้านคน

ทั้งนี้กรุ๊ปทัวร์จีนที่เดินทางมาไทยครั้งแรกเริ่มตั้งแต่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นไป เป็นผลมาจากกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของจีนอนุญาตให้บริษัทนำเที่ยวจัดกรุ๊ปทัวร์นำนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเที่ยวต่างประเทศได้ นำร่องใน 20 ประเทศ โดยมีไทยรวมอยู่ด้วย

ผู้ว่าฯ ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ตลาดจีนที่จะเดินทางมาต่อเนื่องปี 2566 จะมี 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มที่ 1 นักท่องเที่ยวเดินทางอิสระโดยลำพัง (F.I.T.) กลุ่มที่ 2 เดินทางมาแบบกรุ๊ปเป็นหมู่คณะ (G.I.T.) กลุ่มที่ 3 ไมซ์ MICE ตอนนี้หลายองค์กรมุ่งหน้าสู่ไทยเพื่อจัดประชุม สัมมนา อินเซนทีฟ ยังไม่นับรวมจีนที่เดินทางอิสระแบบเดี่ยว F.I.T.แต่ก็ยังต้องพิจารณาข้อจำกัดเรื่อง “ความถี่เที่ยวบิน” ยังไม่สามารถเพิ่มแบบรวดเร็วได้ เพราะรัฐบาลจีนระมัดระวังเรื่องการแพร่ระบาดโควิด เช่นเดียวกับ “ทางบก” จะมีคาราวานจากเฉินตูเข้ามาหลายร้อยคัน และ “รถไฟความเร็วสูง” จากจีนผ่านสปป.ลาว ผ่านจังหวัดหนองคายมาเที่ยวเมืองไทย

ส่วนการ “เฝ้าระวังเมื่อมีกรุ๊ปจีน” คือ พนักงานภาคบริการขาดแคลนต้องให้ความสำคัญและน้ำหนักกับ “คุณภาพบริการ” มากกว่าจะเน้น “จำนวนคนมาก” แล้วรองรับไม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อทำให้นักท่องเที่ยวจีนกลับมาเที่ยวเมืองไทยซ้ำอีกหลายครั้ง สร้างรายได้เข้าประเทศแบบมีคุณภาพอย่างยั่งยืน

เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza, www.facebook.com/penroongyaisamsaen