ททท.จัดงาน “SATTE 2022″ขนเอกชนดึงตลาดอินเดียเป๋าหนักเที่ยวไทย

  • ตั้งเป้าปั้นรายได้ 2.2-2.7 ล้านบาท
  • ดึงอินเดียเที่ยวไทยถึง 6 แสนคน
  • สวนสยามเริ่มให้บริการอาหารอินเดียมื้อเช้า

นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ททท.ได้นำภาคเอกชนไทย 24 ราย เข้าร่วมงานส่งเสริมการขาย South Asia Travel and Tourism Exchange SATTE 2020 ที่กรุงนิวเดลี สาธารณรัฐอินเดีย โดยในปี 2565 ตั้งเป้าหมายในปี 2565 ต้องการนำนักท่องเที่ยวชาวอินเดียไปท่องเที่ยวในประเทศไทย อยู่ที่ 500,000 คน สร้างรายได้ 22,500 ล้านบาท ซึ่งจากความต้องการเดินทางเข้าประเทศไทยที่อยู่ในรูปแบบสตรอง รีบาวด์ หรือเด้งกลับมาอย่างแข็งแกร่ง เป็นไปได้ที่ปี 2565 จะมีโอกาสสูงสุดที่จะดึงชาวอินเดียเข้ามาเที่ยวไทยถึง 600,000 คน สร้างรายได้เพิ่มขึ้นที่ 27,000 ล้านบาท

โดยก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 ระบาดในปี 2562 มีนักท่องเที่ยวอินเดียมาเที่ยวไทย 1.96 ล้านคน ซึ่งเคยตั้งเป้าจะทำให้ได้ 2 ล้านคน แต่เมื่อเจอการระบาดโควิด-19 จึงชะลอตัวลดลง โดยปี 2563 มีจำนวน 261,730 คน และปี 2564 จำนวน 6,544 คน ซึ่งในปี 2565 ประเมินว่ารัฐบาลจีนยังไม่มีความชัดเจนในการให้พลเมืองออกท่องเที่ยวนอกประเทศ ททท.จึงจำเป็นต้องหาตลาดทดแทนตลาดจีน ซึ่งอินเดียจะมีส่วนมาทดแทนได้เพราะเป็นประเทศที่มีประชากรสูงและมีเที่ยวบินเข้าไทยจำนวนมาก

“ททท.มั่นใจว่า ชาวอินเดียสนใจเดินทางท่องเที่ยวไทยในปี 2565 มีเหตุผลมาจากการตามติดตามข้อมูลการเดินทางเข้าไทยตั้งแต่ต้นปี ซึ่งพบว่าในแต่ละเดือนมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยในเดือนมกราคม 2565 มีจำนวน 2,080 คน เดือนกุมภาพันธ์ 2,646 คน จากนั้นในเดือนมีนาคม เพิ่มเป็น 12,142 คน เพราะตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม 2565 รัฐบาลอินเดียได้ปลดล็อคให้เครื่องบินพาณิชย์กลับมาบินระหว่างประเทศได้ตามปกติ ต่อมาในเดือนเมษายน มีนักท่องเที่ยวอินเดียเข้ามา 23,796 คน โดยเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ที่ผ่านมา รัฐบาลไทยได้ยกเลิกระบบเทสต์ แอนด์ โก ทำให้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 17 พฤษภาคม 2565 มีนักท่องเที่ยวอินเดียเข้ามาเที่ยวไทยรวม 81,205 คน นับเป็นอันดับ 2 รองจากนักท่องเที่ยวสหราชอาณาจักร ที่มีจำนวน 84,600 คน หรือน้อยกว่าอยู่ประมาณ 3,395 คน จึงเชื่อว่าอีกไม่นานจะขึ้นเป็นอันดับ 1 แน่นอน โดยเป็นที่สังเกตว่าตั้งแต่วันที่ 13 พฤษภาคม เป็นต้นมา นักท่องเที่ยวอินเดียเดินทางเข้าไทยไม่ต่ำกว่าวันละ 2,000 คนแล้ว” นายธเนศวร์ กล่าว

นายธเนศวร์ กล่าวว่า นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 17 พฤษภาคม 2565 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าราชอาณาจักรไทย 1,069,727 คน โดยประเทศที่เดินทางมาไทยมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ สหราชอาณาจักร อินเดีย เยอรมัน สหรัฐอเมริกา และรัสเซีย ซึ่งจังหวัดยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวอินเดียที่เลือกเดินทางเป็นลำดับต้นๆ ของประเทศไทย ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ชลบุรี ภูเก็ต กระบี่ และสุราษฎร์ธานี

กิจกรรมที่ได้รับความสนใจ 3 ลำดับแรก ได้แก่ กิจกรรมชายหาด รับประทานอาหารไทย และการท่องเที่ยวยามค่ำคืน โดยททท.มุ่งเน้นเจาะกลุ่มตลาดนักท่องเที่ยวอินเดียกลุ่มที่มีศักยภาพ มีการใช้จ่ายสูง อาทิ กลุ่มเดินทางเพื่อพักผ่อน (leisure) กลุ่มครอบครัว กลุ่มมิลเลนเนียล (Millennials) และกลุ่มความสนใจเฉพาะ (Niche Market) ได้แก่ กลุ่มแต่งงาน กลุ่มลักชัวรี่ กลุ่มดูแลสุขภาพ และกลุ่มกอล์ฟ โดยตอนนี้ยังประเมินค่าใช้จ่ายต่อทริปของนักท่องเที่ยวอินเดียอยู่ที่ 45,000 บาทต่อคนต่อทริป เทียบเท่ากับปี 2562 ก่อนเกิดโควิด-19 ไว้ก่อนและจากนี้ไปจะประเมินว่าจะสูงกว่านี้หรือไม่

ด้านนายวุฒิชัย เหลืองอมรเลิศ กรรมการผู้จัดการใหญ่ สยาม พาร์ค บางกอก หรือ สวนสยาม ทะเลกรุงเทพฯ เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน เป็นต้นไป สวนสยามจะเริ่มให้บริการอาหารอินเดียมื้อเช้า เพื่อรองรับเที่ยวบินอินเดีย ที่มาถึงไทยในช่วงตี 5 และเที่ยวในสวนน้ำสวนสนุกต่อ ซึ่งเป็นแผนที่เตรียมทำไว้เมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา แต่เจอการระบาดของโควิด-19 ทำให้ต้องหยุดไป ขณะที่การเข้าร่วมในงาน SATTE 2020 ในครั้งนี้ได้รับความสนใจจากบริษัทนำเที่ยวของอินเดียอย่างมาก เนื่องจากมีสินค้าและบริการใหม่มานำเสนอเพิ่มเติม