ททท. ควง “หัวเหว่ย” ใช้ไฮเทค 5G ปั๊มตลาดจีน&ทั่วเอเชียปี 65-66 บูมโทรมาเมื่อไหร่ amazing เมื่อนั้น-หนุนเด็ก 15 ชาติเที่ยวไทย

  • “ททท.” ผนึก “หัวเหว่ย” ลุยใช้แพลตฟอร์มไฮเทค 5G คลาวนด์ AI, AR/VR
  • ปลุกนักท่องเที่ยวคุณภาพสูงรายใหญ่ตลาดจีนและทั่วเอเชียแปซิฟิก
  • นำร่องโปรเจ็กต์ “โทรมาเมื่อไหร่ amazing THAILAND เมื่อนั้น” 1 ปี ปลายปี’65-66
  • พร้อมหนุนโครงการหัวเหว่ย Seeds for the Future
  • นำเยาวชน 15 ชาติ เข้าค่ายดิจิทัลเที่ยวในไทย 19 -27 ส.ค.65

นายนภินทร ศรีสรรพางค์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้เป็นประธานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วย “DIGITAL TRANSFORMATION AND INNOVATION DEVELOPMENT FOR SMART TOURISM” ระหว่าง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นำโดยนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. กับบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด โดย นายอาเบล เติ้ง ประธานกรรมการบริหาร และนายจุน จาง รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ทั้งสององค์กรผนึกกำลังกันส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงจากหัวเว่ย ผ่านระบบ 5G คลาวด์ AI และ AR/VR พัฒนาแพลตฟอร์มการท่องเที่ยวดิจิทัลอัจฉริยะ และอีโคซิสเต็ม (Ecosystem) ด้านการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ ด้วนการประยุกต์ใช้แอปพลิเคชันมัลติมีเดีย กับบริการแนวใหม่ในเครือข่ายความเร็วสูงแห่งอนาคต เสริมความแข็งแกร่งควบคู่กับการช่วยขยายฐานตลาดการท่องเที่ยว

สอดคล้องตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี พ.ศ. 2561-2580 รัฐบาลวางเป้าหมายให้การท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือสำคัญพัฒนาอย่างยั่งยืน ยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวสู่การท่องเที่ยวคุณภาพสูง และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านตลาดโดยใช้ 5G ผลักดันและส่งมอบประสบการณ์การท่องเที่ยวอันทรงคุณค่า (Meaningful Travel) ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติรู้จักสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวของไทยอย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้น

ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. เปิดเผยว่า ความร่วมมือระหว่าง ททท. กับ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่(ประเทศไทย) จำกัด ที่จะส่งผลดีการเตรียมความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวตลาดใหญ่จากสาธารณรัฐประชาชนจีนจึงได้ร่วมบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเดินหน้านำร่องทำโครงการ “DIGITAL TRANSFORMATION AND INNOVATION DEVELOPMENT FOR SMART TOURISM” ภายใต้ชื่อ “โทรมาเมื่อไหร่ amazing THAILAND เมื่อนั้น” เป็นเวลา 1 ปี

ตั้งเป้าหมายจะร่วมกันสร้างประโยชน์หลัก ได้แก่ 1.นำเครือข่ายพันธมิตรดิจิทัลแลกเปลี่ยนทักษะความเชี่ยวชาญการทำงานเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมการท่องเที่ยว 2.สนับสนุนการพัฒนาและยกระดับเทคโนโลยี อาทิ 5G คลาวด์ AI และ AR/VR ที่จะนำมาใช้กับการท่องเที่ยวได้ ผลักดันการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทย

โดย ททท. จะจัดทำ Video Ring back Tone วิดีโอรอสายฉายภาพความสวยงามแหล่งท่องเที่ยวไทย วัฒนธรรมอาหารไทย และประเพณีไทย เพื่อประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวไทยสู่สายตาชาวโลก ผ่านผู้ใช้บริการ 5G ของHUAWEI ในไทย และเครือข่ายพันธมิตร HUAWEI สามารถดาวน์โหลดวิดีโอภาพได้ฟรี

โครงการความร่วมมือดังกล่าวสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ ททท. 5 ปี ระหว่าง 2566-2570 จะเดินหน้าขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวไทยสร้างประสบการณ์ทรงคุณค่าและมุ่งสู่ความยั่งยืน มุ่งส่งเสริมการเพิ่มขีดความสามารถและศักยภาพด้านนวัตกรรมในการขับเคลื่อนระบบนิเวศด้านการท่องเที่ยว (Tourism Ecosystem) พร้อมรองรับนักท่องเที่ยวคุณภาพอย่างยั่งยืน พร้อมกับต่อยอดพัฒนาห่วงโซ่อุปทาน (Shape supply) และขับเคลื่อน Thrive for Excellence : ยกระดับองค์กรสู่องค์กรสมรรถนะสูง มุ่งสู่การเป็น Data Driven Organization

ทางด้าน นายอาเบล เติ้ง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้เทคโนโลยีดิจิทัลกำลังพลิกโฉมโลกใบนี้นำไปสู่ยุคทองแห่งการเปลี่ยนผ่านเรียบร้อยแล้ว อนาคตจากนี้เป็นต้นไปหัวเว่ยจะมุ่งมั่นใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีขั้นสูงยกระดับให้ ททท. ก้าวขึ้นเป็นผู้นำเชิงกลยุทธ์ด้านการขับเคลื่อนประเทศไทยให้เป็นจุดมุ่งหมายด้านการท่องเที่ยวระดับโลก

ซึ่งทั้ง หัวเหว่ย และททท.2 องค์กรจะนำเทคโนโลยี 5G เข้ามาสร้างนวัตกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยวไทยผ่านการถ่ายทอดสด หรือ Live Broadcasting สร้างบรรยากาศจุดชมวิวอันโดดเด่นของแหล่งท่องเที่ยวไทยแบบเรียลไทม์บนเครือข่ายหัวเหว่ย 5G และผ่านสื่อออนไลน์ ททท. มีทั้ง Youtube : Amazing Thailand แอปพลิเคชัน Amazing Thailand และออนไลน์ของพันธมิตรรายต่างๆ

ขณะเดียวกัน ททท.ยังเป็นเจ้าภาพพาเยาวชนผู้เข้าแข่งขันโครงการ Seeds for the Future ของหัวเว่ย จำนวน 120 ราย เดินทางทัศนศึกษาวัดพระศรีรัตนศาสดารามและวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ในวันที่ 20 สิงหาคม 2565 โครงการดังกล่าวถือเป็นงานอีเวนท์ Seeds for the Future ระดับภูมิภาคที่ใหญ่ที่สุด ได้รวบรวมนักเรียนระดับหัวกะทิในเอเชีย แปซิฟิก 144 คน จาก 15 ประเทศ มาเข้าค่ายดิจิทัลในประเทศไทย 9 วัน เริ่ม 19 -27 สิงหาคม 2565

สำหรับโครงการ Seeds For the Future ไทยเริ่มครั้งแรกปี 2551 ปัจจุบันขยายไปทั่วโลก 150 ประเทศโสาเปิดโอกาสนักเรียน นักศึกษา เข้าถึงแล้วได้กว่า 12,000 คน จากมหาวิทยาลัย 500 สถาบัน

ททท. ตั้งเป้าปี 2565 จะใช้โครงการ Seeds for the Future ส่งมอบประสบการณ์การท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ที่มีความหมายและน่าจดจำขยายเป็นวงกว้างมากยิ่งขึ้นทำให้เกิดการตื่นตัวของกลุ่มนักท่องเที่ยวเยาวชนที่จะเป็นฐานตลาดสำคัญของประเทศในอนาคตต่อไป

เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza, www.facebook.com/penroongyaisamsaen