ททท.ควงเอกชนบุกอินเดีย รุกขายงานบิ๊กสุด “SATTE 2022” ตั้งเป้าปีขาลโกย 5 แสนคน 4 ตลาดคุณภาพ ทัวร์ไทย 5 จังหวัด

  • ททท.เปิดเกมรุกตลาดอินเดีย คัดเอกชนไทยร่วมมหกรรมจับคู่ธุรกิจค้าท่องเที่ยวรายการใหญ่
  • เผยตลอดงาน 3 วันโกยได้ถึง 3,000 นัดหมาย ปี’65 ตั้งเป้า 5 แสนคน
  • ชี้ 5 เดือนแรก ม.ค.-พ.ค. อินเดียเที่ยวไทยติดอันดับ 1 ใน 5
  • ไทยเล็งปั๊มตลาดคุณภาพ 4 กลุ่ม “ทัวร์พักผ่อน-ครอบครัว-มิลเลนเนียลส์-กลุ่มเฉพาะคู่แต่งงาน/เวลเนส/ลักชัวรี่/เล่นกอล์ฟ”
  • ชอบเที่ยว 5 เมืองหลัก กรุงเทพฯ ชลบุรี ภูเก็ต กระบี่ สุราษฎร์ธานี

นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท. นำผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทย 22 ราย 4 กลุ่มหลัก บริษัทนำเที่ยว โรงแรม สายการบิน แหล่งท่องเที่ยว/บริการการแพทย์ เข้าร่วมงาน South Asia Travel and Tourism Exchange : SATTE 2022 ระหว่าง 18-20 พฤษภาคม 2565 ที่ อินเดีย เอ็กซโป มาร์ต เกรเตอร์ โนเดีย (India Expo Mart, Greater Nodia) กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย เร่งรุกตลาดหลักของไทยมุ่งทำเทรดโชว์ส่งเสริมการขายมหกรรมท่องเที่ยวรายการใหญ่และสำคัญที่สุดที่จะเจรจาจับคู่ธุรกิจขายท่องเที่ยวกับคู่ค้าอินเดีย ตลอดปี 2565 ตั้งเป้าจะกระตุ้นอินเดียเที่ยวไทยให้ได้ไม่ต่ำกว่า 500,000 คน

ระหว่างพิธีเปิดคูหาไทยแลนด์ สแตนด์ ในงาน SATTE 2022 ททท.ได้รับเกียรติจาก นางสาวภัทรัตน์ หงษ์ทองเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงนิวเดลี นายนิธี สีแพร รองผู้ว่าการด้านดิจิทัล วิจัย และพัฒนา ททท.และผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยเข้า ผนึกกำลังกันสร้างภาพลักษณ์ให้ไทยเป็นจุดหมายปลายการท่องเที่ยวของโลกหรือ Preferred Destination ขานรับปีท่องเที่ยวไทย 2565 ด้วยแคมเปญ Amazing Thailand : Amazing New Chapters

ททท.ตั้งเป้าปลุกกำลังซื้อตลาดท่องเที่ยวอินเดียกลุ่มคุณภาพที่มีการใช้จ่ายเงินสูง เช่น 1.กลุ่มนักท่องเที่ยวเดินทางพักผ่อน (leisure) 2.กลุ่มครอบครัว 3.กลุ่มคนรุ่นใหม่วัยรุ่นวัยทำงาน (Millennials) 4.กลุ่มความสนใจเฉพาะ (Niche Market) ซึ่งมีทั้งกลุ่มแต่งงาน กลุ่ม Luxury & Wellness และกลุ่มกอล์ฟ

รวมทั้ง ททท.เล็งเห็นถึงโอกาสที่เอกชนท่องเที่ยวไทยสามารถใช้เวทีนี้จับคู่เจรจาธุรกิจทำเชิงรุกควบคู่กันทั้งการตลาดและส่งเสริมการขายร่วมกับผู้ประกอบการในอินเดีย ให้ได้ไม่ต่ำกว่า 3,000 นัดหมาย

เนื่องจากมีข้อมูลยืนยันจาก Informa Markets คาดการณ์ว่าตลอดการจัดงาน SATTE 2022 มีผู้เข้าร่วมชมงานไม่ต่ำกกว่า 50,000 คน ผู้เข้าร่วมแสดงสินค้าทางการท่องเที่ยว (Exhibitors) ประมาณ 1,200 บูธ ผู้ประกอบการที่เข้าร่วม(Trade Visitors) 35,000 คน จาก 50 ประเทศ

ส่วนสถานการณ์นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยตั้งแต่ 1 มกราคม -11 พฤษภาคม 2565 มีทั้งหมด 966,686 คน ในจำนวนนี้มีอินเดียติด 1 ใน 5 อันดับแรกด้วย ดังนี้ คือ 1.สหราชอาณาจักร 2.เยอรมัน 3.อินเดีย 4.รัสเซีย5.สหรัฐอเมริกา  

นักท่องเที่ยวอินเดียเลือกเดินทางท่องเที่ยวไทยตามจังหวัดยอดนิยมลำดับต้น ๆ คือ กรุงเทพมหานคร ชลบุรี ภูเก็ตกระบี่ และสุราษฎร์ธานี และชื่นชอบทำกิจกรรม 3 ลำดับแรก ได้แก่ กิจกรรมชายหาด รับประทานอาหารไทย และท่องเที่ยวยามค่ำคืน

นายธเนศวร์ กล่าวว่า ททท.ได้จัดกิจกรรม Amazing Thailand Destination Presentation ที่โรงแรม เดอะ ลีลา พาเลซ กรุงนิวเดลี เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2565 เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวใหม่ หรือทำโปรดักต์อัพเดทให้บริษัทนำเที่ยวและสื่อมวลชนในอินเดียรับรู้ความเคลื่อนไหวของเมืองไทยอย่างทันสถานการณ์ เพื่อเป็นปัจจัยกระตุ้นความสนใจให้เลือกไทยเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวอันดับแรกหลังโควิดคลี่คลายลงในจังหวะการเปิดประเทศมาตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2565

พร้อมกับจัดกิจกรรม “Amazing New Chapter Dinner Reception” ประกาศความพร้อมของประเทศไทย ได้พลิกโฉมต้อนรับ “ปีท่องเที่ยวไทย 2565 -Visit Thailand Year 2022: Amazing New Chapters” และร่วมเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 75 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย – อินเดีย นำเสนอผ่านการบรรเลงดนตรีแจ๊สตอกย้ำซอฟท์เพาเวอร์ผสมผสานวัฒนธรรมไทย โดยมีนักดนตรีชั้นนำของเมืองไทยTHE SOUND OF SIAMนำทีมโดย “โก้-มิสเตอร์แซกแมน-แซกโฟนส์” กับกลุ่มนักดนตรีที่มีความสามารถระดับแนวหน้าทั้งไทยและสากล ร่วมโชว์ความสามารถสร้างความประทับใจให้ผู้เข้าร่วมงานทุกคน

สำหรับงาน SATTE 2022 อินเดียจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 29 โดย ททท. ได้นำผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมงานเป็นปีที่ 13   ปี 2565 ใช้วิธีรับสมัครผ่านเว็บไซต์ virtualmart.tourism.org ให้สิทธิ์จองก่อนได้รับสิทธิ์ก่อนมีผู้ได้สิทธิ์เดินทางมากับ ททท.รวม 28 ราย ประกอบด้วย กลุ่มที่ 1 บริษัทนำเที่ยวและจัดการภาคพื้น 13 ราย กลุ่มที่ 2 ธุรกิจโรงแรม 7 รายกลุ่มที่ 3 ธุรกิจสายการบิน 4 ราย และ กลุ่มที่ 4 อื่นๆ เกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยวนันทนาการและบริการทางการแพทย์ 4 ราย

ผู้ประกอบการท่องเที่ยวของไทยทั้ง 4 กลุ่ม ได้เปิดบูธในฐานะตัวแทนผู้ขาย (sallers ) เปิดเจรจาธุรกิจและนำเสนอสินค้าบริการภายในคูหาประเทศไทย (Thailand Stand) ขนาดพื้นที่ 190 ตารางเมตร ตกแต่งด้วยบรรยากาศสะท้อนแนวคิดความหลากหลายหรือ New Chapter ซึ่งจัดให้มีการแสดงทางด้านศิลปวัฒนธรรมไทยและกิจกรรมสาธิตเพื่อตอกย้ำและส่งมอบคุณค่าอัตลักษณ์ความเป็นไทย เช่น การแสดงรำไทย มวยไทยโบราณ กิจกรรมสาธิตวาดร่ม และตัดพวงมโหต ช่วยดึงดูดผู้เข้าร่วมงานให้ความสนใจเข้าเยี่ยมชมเป็นจำนวนมาก สร้างความคึกคักทำให้ชื่อเสียงการท่องเที่ยวไทยเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายเป็นวงกว้างในตลาดกลุ่มเป้าหมายที่จะเดินทางมาเที่ยวเมืองไทยในโอกาสต่อไป

เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza, www.facebook.com/penroongyaisamsaen