ต้นปี63เช็คค่าบริการทางการแพทย์ได้ที่ www.dit.go.th

  • พาณิชย์เร่งศึกษาค่าบริการโรงพยาบาลเอกชน
  • นำร่อง200รายการที่ประชาชนใช้บริการมาก
  • เผยแพร่บนเว็ไซต์ให้ประชาชนเปรียบเทียบราคา

นายประโยชน์ เพ็ญสุต รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมอยู่ระหว่างการนำค่าบริการทางการแพทย์ ของโรงพยาบาลเอกชนประมาณ 200 รายการ จากรายการยาตามรหัสบัญชีข้อมูลและรหัสยามาตรฐานไทย (ทีเอ็มที) ในส่วนของค่าบริการทางการแพทย์ทั้งหมด 5,000 รายการ ขึ้นเว็บไซต์กรมที่ www.dit.go.thเพื่อให้ประชาชนสามารถเปรียบค่าบริการของโรงพยาบาลเอกชนทั้งหมด 351 แห่งได้ เช่น ค่าเอ็กซเรย์, ค่าตรวจเลือด,ค่าห้องพัก, ค่าอาหาร เป็นต้น รวมถึงจะจัดทำเป็นคิวอาร์โค้ดเพื่อให้ประชาชนสามารถสแกนตรวจสอบ และเปรียบเทียบราคาได้ คาดว่าจะเผยแพร่บนเว็บไซต์ได้ในต้นปี 63

“เมื่อวันที่ 16 ส.ค. ที่ผ่านมา กรมได้นำราคายาของแต่ละโรงพยาบาลเอกชนเผยแพร่บนเว็บไซต์ของกรมไปแล้ว เพื่อให้ประชาชนได้ตรวจสอบ ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ป่วยและญาติผู้ป่วยเข้ามาเช็คและเทียบราคาจำนวนมาก ดังนั้น กรมจะขยายเรื่องของราคายามาเป็นค่าบริการ โดยจะคัดเลือกค่าบริการ 200 รายก่อน เน้นบริการที่ประชาชนเข้ามาใช้บริการกันจำนวนมาก แม้ว่าการเปรียบเทียบราคาค่าบริการค่อนข้างจะยากกว่าการเปรียบเทียบราคายา แต่มีผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์เข้ามาช่วยเหลือในการวิเคราะห์”

ส่วนการศึกษาเพื่อพิจารณาแนวทางในการกำหนดส่วนต่างของต้นทุนและราคาขายยา เวชภัณฑ์หรือมาร์จิ้นนั้น มีความคืบหน้าไปมาก เบื้องต้นจะมีการแบ่งกลุ่มต้นทุนราคาหลายกลุ่ม เช่น ราคาหลักสตางค์ต่อเม็ด, ราคาหลักบาทแต่ไม่เกิน 10 บาท, ราคา 10-50 บาท ราคา 50-100 บาท เป็นต้น เพื่อกำหนดส่วนต่างหรือเปอร์เซ็นต์ที่ห้ามขายเกินจากต้นทุน คาดว่าในเร็วๆ นี้จะได้ข้อสรุปเช่นกัน

“คงต้องกำหนดยาออกเป็นหลายกลุ่ม เช่น ยาราคาต่ำ เม็ดละไม่กี่บาท, ยาราคาแพง, ยาหายาก, ยาที่ใช้กันน้อย แต่ก็จำเป็นต้องมี เป็นต้น เพราะหากจะกำหนดส่วนต่างในอัตราเดียวกันหมดจะทำให้ยาราคาถูกได้รับผลกระทบ เช่น ต้นทุนเม็ดละ 50 สตางค์ หรือ 1 บาท หากห้ามมีส่วนต่างเกิน 100% ก็ยังไม่กระทบต่อผู้ป่วยมากนัก แต่ถ้าเป็นยาแพงต้นทุนเม็ดละ 100,000 บาท หากห้ามมีส่วนต่างเกิน 100% ราคาจำหน่ายก็จะเป็น 200,000 บาท ซึ่งจะสร้างความเดือดร้อนแก่ผู้ป่วยอย่างมาก ดังนั้น การกำหนดเปอร์เซ็นต์ส่วนต่างก็จะมีหลายอัตรา ตามที่กรมกำลังพิจารณา”