ต่ออายุยกเว้นเก็บอากรเอดีทินเพลต-ทินฟรีอีก 6 เดือน

.หวังลดผลกระทบผู้ใช้-ผู้ผลิตอาหารกระป๋อง

.หวั่นเก็บภาษีสูงดันต้นทุนผู้ประกอบการทะยาน

.เอกชนเฮลั่น!ขอบคุณ “พาณิชย์” ช่วยให้รอดตาย

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า คณะกรรมการพิจารณาการทุ่มตลาดและการอุดหนุน (ทตอ.) ที่มีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ เป็นประธาน มีมติให้ขยายระยะเวลาการยกเว้นเก็บอากรตอบโต้การทุ่มตลาด (เอดี) เหล็กแผ่นชุบหรือเคลือบด้วยโครเมียมทั้งชนิดเป็นม้วนและไม่เป็นม้วน (ทินฟรี) ที่มีแหล่งกำเนิดจากจีน เกาหลีใต้ และสหภาพยุโรป (อียู) และเหล็กแผ่นชุบหรือเคลือบด้วยดีบุกทั้งชนิดเป็นม้วนและไม่เป็นม้วน (ทินเพลตที่ใช้ทำกระป๋องบรรจุอาหาร) จากจีน เกาหลีใต้ ไต้หวัน และอียู ต่อไปอีก 6 เดือน สิ้นสุดเดือนพ.ย.65 หลังจากยกเว้นเก็บอากรเอดีครั้งแรกเป็นระยะเวลา 6 เดือน ได้สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 12 พ.ค.65

สำหรับเหตุผลที่ให้ต่ออายุ เพื่อบรรเทาภาระต้นทุนให้กับผู้ใช้สินค้าทั้ง 2 รายการ และผู้บริโภค เพราะ หากเก็บอากรเอดี จะทำให้ต้นทุนของผู้ใช้ ที่มีจำนวนมาก ในหลากหลายอุตสาหกรรม เพิ่มขึ้นมาก โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอาหาร จนอาจต้องปรับขึ้นราคาขาย และกระทบต่อผู้บริโภค เพราะปัจจุบัน ต้นทุนหลายด้านเพิ่มขึ้นมากอยู่แล้ว ทั้งต้นทุนค่าแรงงาน เพราะขาดแคลนแรงงาน ต้นทุนค่าใช้จ่ายในการป้องกันโควิด-19 ต้นทุนการออกเรือจับปลา จากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ต้นทุนราคาวัตถุดิบสินค้าเกษตรสูงขึ้น จากราคาปุ๋ยเคมีที่สูงขึ้น เป็นต้น  

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ทตอ.ได้เปิดไต่สวนเพื่อใช้มาตรการเอดีตามที่ผู้ผลิตสินค้าไทยยื่นคำร้องว่า สินค้า 2 รายการจาก 4 ประเทศมีการทุ่มตลาดในไทย หรือตั้งราคาขายในไทยต่ำกว่าราคาขายในประเทศผู้ผลิต จนทำให้ผู้ผลิตสินค้าไทยได้รับความเสียหาย และพบว่า มีการทุ่มตลาดจริง จึงเรียกเก็บอากรเอดีสินค้า 2 รายการจาก 4 ประเทศเป็นเวลา 5 ปี ตั้งแต่เดือนพ.ย.64 -พ.ย.69 แต่มีผู้ใช้สินค้าทั้ง 2 รายการจำนวนมาก การเรียกเก็บอากรเอดี อาจกระทบต่อผู้ใช้ และผู้บริโภค โดยเฉพาะในช่วงที่ต้นทุนการผลิตต่างๆ ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาก ทตอ.จึงยกเว้นการเก็บอากรเป็นเวลา 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 13 พ.ย.64-12 พ.ค.65 และได้พิจารณายกเว้นเป็นครั้งที่ 2 ต่ออีก 6 เดือน 

อย่างไรก็ตาม หากพ้นระยะเวลายกเว้นแล้ว ทตอ.จะพิจารณาว่า ยังจำเป็นต้องต่อเวลาอีกหรือไม่ หากไม่จำเป็น จะเก็บอากรเอดีทินฟรีจากจีน 4.53-24.73% ของราคาซี ไอ เอฟ (ราคาสินค้ารวมค่าประกันภัยและค่าขนส่ง) เกาหลีใต้ 3.94-17.06% และยุโรป 18.52% เป็นเวลา 5 ปี จนถึงเดือน พ.ย.69 ส่วนทินเพลตจากจีน ให้เก็บ 2.45-17.46% เกาหลีใต้ 8.71-22.67% ไต้หวัน 4.28-20.45% และยุโรป 5.82% เป็นเวลา 5 ปี ถึงเดือนพ.ย.69 เช่นกัน  

ด้านนายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานกรรมการหอการค้าไทย และนายกกิตติมศักดิ์ สมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป กล่าวว่า ต้องขอบคุณกระทรวงพาณิชย์ ที่ยอมขยายเวลาให้อีก 6 เดือน เพราะจะทำให้ผู้ใช้มีโอกาสเลือกซื้อเหล็กกระป๋องจากหลายแหล่งมากขึ้น และต่อรองราคาได้ จากปัจจุบันที่เกิดภาวะขาดแคลน และราคาสูงขึ้นมาก 

“ราคาแผ่นเหล็กทำกระป๋องปรับขึ้นต่อเนื่อง ตั้งแต่ไตรมาส 4/63 ถ้านับรวม 7 ไตรมาสจนถึงไตรมาส 2/65 ราคาขึ้นมาอยู่ที่ตันละ 40,500 บาท จาก 20,000 กว่าบาท ทำให้ราคากระป๋องเพิ่มขึ้นแล้ว 60% คาดว่า ไตรมาส 3/65 ราคาแผ่นเหล็กจะขึ้นอีกตันละ 5,800-7,500 บาท หรือถ้านับรวม 8 ไตรมาส ราคาจะขึ้นมาอยู่ที่ตันละ 48,000 บาท ราคากระป๋องเพิ่มขึ้นเป็น 70% ถ้ากระทรวงพาณิชย์ เก็บอากรเอดีอีก ผู้ผลิตอาหารกระป๋องคงอยู่ไม่ได้แน่ เพราะต้นทุนต่างๆ สูงขึ้นมากเฉลี่ย 10-15% แต่ยังขึ้นราคาขายไม่ได้ ต้องขออนุญาตกระทรวงพาณิชย์ก่อน หรือหากได้รับอนุญาตแล้ว การขึ้นราคาขาย ก็อาจกระทบต่อยอดขาย เพราะกำลังซื้อผู้บริโภคยังมีน้อย”