ติดเทรนด์! ปลอมบัตรเครดิตระบาด 5 ข้อคิด ควรระวัง สกัดโจรปลอม “บัตรเครดิต”เข้าถึงตัว

จากข่าวดังที่มีนักร้องดัง ร่วมกระบวนการปลอม “บัตรเครดิต” และนำไปใช้เป็นจำนวนเงินหลักหลายสิบล้านบาท น่าจะส่งผลให้ “คนที่มีบัตรเครดิต”ทั้งหลายคงร้อนๆ หนาวๆ ว่า “จะมีโอกาสถึงคราวของเราไหม”

จะทำอย่างไรถึงจะป้องกันหรือลดโอกาสที่จะถูกปลอมแปลง “บัตรเครดิต”ของเราได้

เรามี 5 ข้อคิดที่น่าสนใจมาให้อ่านกัน น่าจะช่วยระวัง “มิจฉาชีพ” ที่จะล้วงลับข้อมูลของเราได้                                 1.อย่าให้บัตรเครดิตห่างตัวนานเกินไป สิ่งที่มิจฉาชีพ ต้องการมากที่สุด เพื่อปลอมแปลง “บัตรเครดิต” ของเราก็คือ “ตัวบัตร” เพื่อที่จะนำไปเข้าเครื่องถอดรหัสเพื่อคัดลอกข้อมูล ดังนั้น ก่อนที่จะรูดบัตรที่ไหน ให้ดูหน้าดูหลัง ดูความน่าเชื่อถือของสถานที่เสียก่อน

รวมทั้งดูพฤติกรรมของผู้รับบัตร เช่น พยายามนำบัตรไปรูดในที่ลับตา เปลี่ยนเครื่องรูดไปมาบ่อยๆ หรือหลีกเลี่ยงตู้ หรือเครื่องรับบัตรที่ดูไม่สมบูรณ์                

2. ปกปิดหมายเลขบัตร ลายเซ็นและรหัสลับด้านหลัง ในกรณีที่เราตามติดไปดูการรูดบัตรทุกครั้งไม่ได้ สิ่งที่ควรทำคือการปิดข้อมูลพื้นฐานของบัตร อย่าให้ “คนแปลกหน้า” สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ เช่น อาจจะปิดตัวเลข 3 ตัวกลาง หรือ 3 ตัวหลังของหมายเลขบัตรเครดิต รวมทั้งปิดตัวเลข 3 หลัก หลังบัตรที่เป็นรหัสลับเพื่อความปลอดภัย ที่เราต้องใช้กรอกยืนยันข้อมูลในการซื้อสินค้าออนไลน์

แต่ขอ ปล.ไว้ด้วยว่า ก่อนที่จะปิดทับหมายเลขเหล่านี้ ขอให้จำหรือจดไว้ในที่ปลอดภัยก่อน ไม่เช่นนั้น เกิดจำไม่ได้ขึ้น คุณเองก็จะรูดบัตรไม่ได้นะเออ…    

3.อย่าให้ข้อมูลส่วนตัวกับใครง่ายๆ เพราะเพียงข้อมูลส่วนตัวที่ดูเหมือนว่า ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับข้อมูลการเงินของคุณ เช่น เบอร์โทรศัพท์ วันเดือนปีเกิด สถานที่อยู่ปัจจุบัน หรือ สีที่ชอบ ก็สามารถใช้เป็นข้อมูลที่มิจฉาชีพจะเข้าถึง “ข้อมูลการเงิน” ของคุณได้ โดยไม่รู้ตัว                                            

4.ตรวจสอบยอดบิล และการใช้งานบัตรเครดิตที่ส่งมาทุกเดือน ใครที่เคยได้ “ได้บิลค่าบัตรเครดิต”มาแล้ว ดูแค่ยอดที่ต้องจ่าย หลังจากนั้นก็ดูบรรดาส่วนลด และโฆษณาต่างที่ที่ใส่มาพร้อมกันแทน จากนี้ขอให้เริ่มตรวจสอบบิลค่าใช้จ่ายทุกยอดด้วยว่า เราใช้จริงหรือไม่

ซึ่งจุดที่น่าสังเกตุคือ ในช่วงแรกๆ อาจจะมียอดเงินจำนวนน้อยๆ แค่หลักร้อย เพื่อทดสอบความละเอียดรอบคอบของเราก่อน และหลังจากนั้น….บิลก้อนใหญ่ก็อาจจะตามมา  

 5. หากสงสัยถูกโจรกรรมข้อมูล หรือปลอมบัตรเครดิตให้แจ้งธนาคารเจ้าของบัตรทันที

ท้ายที่สุด ถ้าหนีไม่พ้นจริง ให้แจ้งธนาคารเจ้าของบัตรเพื่อตรวจสอบและอายัดบัตรการใช้บัตรไว้ก่อน โดยขอยืนยันว่า หากรายการใด เราไม่ได้ใช้ และยืนยันหลักฐานได้ เรามีสิทธิปฏิเสธการใช้จ่ายนั้นได้ตามกฎหมายกำหนด