ตำรวจยื่นคำร้องศาล ฝากขัง “ปริญญ์” อีกคดี กระทำอนาจารสาวในคอนโด พร้อมคัดค้านการประกันตัว หวั่นหลบหนี-ข่มขู่พยาน

วันนี้ (6 พ.ค.65) ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถนนเจริญกรุง พนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี ได้ยื่นคำร้องฝากขังผ่านระบบจอภาพทางไกลครั้งแรก นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อายุ 44 ปี อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ผู้ต้องหาคดี กระทำผิดฐานกระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้

โดยพนักงานสอบสวนระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อประมาณวันที่ 24 – 25 ต.ค.63 ผู้เสียหายรู้จักนายปริญญ์ ผู้ต้องหาตอนไปหาเสียงทางการเมืองที่ จ.ศรีสะเกษ จึงได้เข้าไปทักทาย และมีการแลกเบอร์โทรศัพท์กันไว้เพื่อติดต่อ เนื่องจากเห็นว่า เป็นคนน่าเชื่อถือ ต่อมาเมื่อ 13 พ.ค.63 ขณะที่ผู้เสียหายอยู่ที่กรุงเทพฯ ผู้ต้องหาได้โทรศัพท์มาชวนไปที่ห้องส่วนตัว เพื่อไปปรึกษาทำโครงการเกี่ยวกับธุรกิจเพื่อสังคม ที่คอนโดทาวเวอร์พาร์ค 

ต่อมาผู้เสียหายจึงเดินทางไปพบตามคำชักชวน ระหว่างอยู่ในลิฟท์ ผู้ต้องหาได้ลวนลามผู้เสียหาย เมื่อขึ้นไปถึงชั้น 20 ผู้ต้องหาพาผู้เสียหายเข้าไปในห้องพัก และได้พยายามชักชวนให้ผู้เสียหายดื่มไวน์ แต่ผู้เสียหายปฏิเสธไม่ยอมดื่มด้วย

นอกจากนี้ ผู้ต้องหาได้ลวนลามผู้เสียหาย ซึ่งพยายามขัดขืน แต่อยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หลังจากนั้นผู้เสียหายจึงขอตัวกลับเวลา 19.30 น. จากนั้นผู้เสียหายได้มาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนที่ สน.ลุมพินี ในวันเดียวกัน เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาตาม กฎหมายจนกว่าคดีจะถึงที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 278 , 281(2) , 91 พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ.2526 มาตรา 11 เหตุเกิดภายในลิฟท์ และในห้องพักคอนโดมิเนียม แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่เวลาประมาณ 16.42 – 19.30 น.ต่อเนื่องกัน

ชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนยังต้องสอบพยาน อีก 7 ปาก , รอผลตรวจของกลาง และรอผลการตรวจสอบประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหา จึงขอฝากขังผู้ต้องหาไว้มีกำหนด 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 6 – 17 พ.ค.นี้

ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวน ขอคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหา เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง พฤติการณ์กระทำผิดของผู้ต้องหามีลักษณะเป็นภัยสังคม ทั้งมี ผู้เสียหายมาแจ้งความร้องทุกข์ผู้ต้องหาอีกหลายราย ทั้งผู้ต้องหาเคยมีที่พำนักอยู่ต่างประเทศ ประกอบกับ ผู้ต้องหามีฐานะทางสังคม ซึ่งอาจจะไปข่มขู่พยานและไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หากปล่อยตัวไปเกรงผู้ต้องหาจะ หลบหนี หรือก่อเหตุร้ายประการอื่น จึงขอคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหานี้ แต่หากศาลอนุญาตให้ผู้ต้องหาประกันตัว ขอให้กำหนดเงื่อนไข ห้ามไม่ให้ผู้ต้องหาไปข่มขู่พยาน ไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานและเดินทางออกนอกประเทศ ศาลพิจารณาคำร้องแล้วอนุญาตให้ฝากขังได้