ตำรวจยิงแก๊สน้ำตาใส่ผู้ชุมนุมประท้วงต้านแผนปฏิรูปเงินบำนาญที่ฝรั่งเศส

รูปภาพจากรอยเตอร์
  • ฝรั่งเศสเป็นอัมพาต ขนส่งสาธารณะหยุดให้บริการ
  • ผู้ชุมนุมกว่า แสนคนออกมาชุมนุมประท้วง
  • การประท้วงมีสิทธิยืดเยื้อถึงสุดสัปดาห์

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ตำรวจยิงแก๊สน้ำตาใส่ผู้ชุมนุมประท้วงแผนการปฏิรูปเงินบำนาญใจกลางกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศษ ในวันพฤหัสบดี(5 ธันวาคม) หลังจากที่ชาวฝรั่งเศสออกมาชุมนุมประท้วงคัดค้านแผนปฏิรูปบำนาญของประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ส่งผลให้พื้นที่การขนส่งสาธารณะหยุดชะงัก ผลจากการนัดหยุดงานครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในหลายทศวรรษของประเทศฝรังเศส โดยมีจุดประสงค์เพื่อบังคับให้ประธานาธิบดีเอ็มมาครง ยกเลิกแผนการปฏิรูปบำนาญที่วางไว้
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ชาวฝรั่งเศสแทบทุกสายอาชีพออกมาเดินขบวนประท้วงทั่วประเทศในวันพฤหัสบดีที่ 5 ธ.ค. 2562 เพื่อต่อต้านแผนปฏิรูปการจ่ายเงินบำนาญผู้เกษียณอายุของประธานาธิบดี มาครง ส่งผลให้การจราจรเป็นอัมพาต โรงเรียนต้องหยุดการเรียนการสอน
ทั้งนี้ ปัจจุบันฝรั่งเศสมีวิธีคำนวณจ่ายเงินบำนาญถึง 42 แบบแตกต่างกันไปในภาคเอกชนและภาครัฐ โดยมีอายุเกษียณและสิทธิประโยชน์ต่างๆ กัน แต่ประธานาธิบดีมาครง ต้องการให้การจ่ายเงินบำนาญอยู่ภายใต้ระบบเดียว โดยคำนวณสิทธิประโยชน์จากแต้มที่เก็บสะสมตามวันทำงานแต่ละวัน ซึ่งสร้างความไม่พอใจแก่ประชาชนจำนวนมาก เพราะมองว่า พวกเขาต้องทำงานนานขึ้น เกษียณอายุช้าลง และอาจได้เงินบำนาญน้อยลง

รูปภาพจากรอยเตอร์

ในการประท้วงเมื่อวันพฤหัสบดี มีประชาชนหลากหลายสายอาชีพทั้ง เจ้าหน้าที่โรงเรียน, ครูประถมและมัธยม, เจ้าหน้าที่หน่วยงานขนส่ง, ตำรวจ, พยาบาล, พนักงานโรงพยาบาล, นักกฎหมาย, พนักงานเก็บขยะ, พนักงานไปรษณีย์ และเจ้าหน้าที่ด้านการพลังงาน ออกมาร่วมประท้วงในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ

สื่อท้องถิ่นระบุว่า จนถึงช่วงเที่ยงวัน มีผู้ชุมนุมออกมาเคลื่อนไหวทั่วประเทศกว่า 180,000 คนแล้ว ก่อนที่การประท้วงในกรุงปารีสจะเริ่มขึ้นในเวลาประมาณ 14:00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ทำให้สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ต้องปิดทำการตลอดวัน ด้านสหภาพแรงงาน CGT ระบุว่า คนงานได้ปิดกั้นโรงกลั่นน้ำมัน 7 ใน 8 แห่งทั่งประเทศ ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะน้ำมันขาดแคลนได้ หากการประท้วงยืดเยื้อออกไป

นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าเกิดการปะทะกันระหว่างผู้ประท้วงกับตำรวจ โดยตำรวจปารีสจับผู้ชุมนุมอย่างน้อย 25 ราย ส่วนที่เมืองน็องต์ผู้ชุมนุมขว้างปาสิ่งของเข้าใส่ตำรวจ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องยิงแก๊สน้ำตาตอบโต้

รูปภาพจากรอยเตอร์

การประท้วงยังส่งผลกระทบต่อการขนส่งอย่างหนัก จนการจราจรหลายจุดเป็นอัมพาต โดยบริการรถไฟความเร็วสูง TGV และรถไฟข้ามระหว่างเมืองกว่า 90% ถูกยกเลิก ในกรุงปารีสมีรถไฟใต้ดินเพียง 5 จาก 16 สายเท่านั้นที่เปิดให้บริการได้ ขณะที่ผู้ให้บริการรถไฟอย่าง ยูโรสตาร์ และ ตาลิส ยกเลิกการเดินรถจากปารีสไปลอนดอนและกรุงบรัสเซลส์ลงร้อยละ 50 โดยยูโรสตาร์จะลดตารางการเดินรถไฟลงจนถึง 10 ธ.ค.

ขณะเดียวกันมีเที่ยวบินถูกยกเลิกหลายร้อยเที่ยว โดยสายการบินแอร์ฟรานซ์ ยกเลิกเที่ยวบินภายในประเทศของพวกเขาลงร้อยละ 30 และเที่ยวบินระหว่างประเทศระยะใกล้อีกร้อยละ 10 เนื่องจากเจ้าหน้าที่หอควบคุมการบินออกไปร่วมประท้วงด้วย ส่วนสายการบินต้นทุนต่ำอย่าง อีซีเจ็ต ยกเลิกเที่ยวบินภายในประเทศและเที่ยวบินระหว่างประเทศระยะใกล้รวม 223 เที่ยวบิน รวมทั้งเตือนผู้โดยสารว่าอาจมีความล่าช้าเกิดขึ้นด้วย

อิสเบล กูบอล (Isabelle Guibal) เจ้าของร้านกาแฟวัย 56 ปีกล่าวกับผู้สื่อข่าวสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า “ การชุมนุมประท้วงน่าจะมีอีกหลายวันถ้าเป็นไปได้ต้องหลีกเลี่ยงการเดินทางในสัปดาห์นี้”
ขณะที่ คนงานรถไฟลงมติให้หยุดงานประท้วงจนถึงวันศุกร์ในขณะที่สหภาพแรงงานที่รถบัสและผู้ประกอบการรถไฟใต้ดินของกรุงปารีส RATP กล่าวว่าการหยุดงานของพวกเขาจะดำเนินต่อไปจนถึงวันจันทร์

การหยุดให้บริการดังกล่าว ทำให้ผู้คนในปารีนต้องหันมาใช้จักรยานในการเดินทาง รวมทั้งใช้บริการรถผ่านแอพพลิเคชั่น และคาร์พูล กับเพื่อนบ้าน เนื่องจากไม่สามารถใช้ระบบขนส่งสาธารณะได้

การชุมนุมประท้วงมีปัญหารุนแรงขึ้นเมื่อ ผู้คนสวมหน้ากากและสวมชุดสีดำปล้นป้ายรถเมล์ใกล้กับ Place de la Republique ทำลายเฟอร์นิเจอร์ บนถนน และหน้าต่างร้านค้าแตก รวมทั้งขว้างดอกไม้ไฟใส่ตำรวจ

รูปภาพจากรอยเตอร์

ตำรวจในชุดปราบจลาจลตอบโต้ด้วยการยิงแก๊สน้ำตา ขณะที่นักข่าวจากสำนักข่าวรอยเตอร์กล่าวว่า ในบริเวณใกล้เคียงตำรวจใช้กระบองเพื่อป้องกันตัวเองจากกลุ่มผู้ชุมนุมสีดำที่บุกเข้ามาโดยตำรวจได้จับกุมผู้ชุมนุมในชุดดำไว้แล้ว 57 คน

ตามแผนปฏิรูประบบบำนาญของมาครง เขาต้องการลดความซับซ้อนของระบบบำนาญของฝรั่งเศสซึ่งประกอบด้วยแผนแตกต่างกันมากกว่า 40 แผนส่วนใหญ่มีอายุเกษียณและผลประโยชน์แตกต่างกัน เช่น คนงานรถไฟนักเดินเรือและนักเต้นบัลเล่ต์ Paris Opera House สามารถเกษียณได้เร็วกว่าคนงานทั่วไปถึงหนึ่งทศวรรษ

มาครง ระบุว่า ระบบที่เป็นอยู่ไม่ยุติธรรมและมีค่าใช้จ่ายที่สูงเกินไป เขาต้องการระบบที่มีเพียงระบบเดียว และทุกคนมิสิทธิที่เท่าเทียมกัน

การชุมนุมประท้วงครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกภายใต้การบริหารของมาครง เมื่อต้นปีที่ผ่านมา เขาต้องเผชิญกับการชุมนุมประท้วงของกลุ่มคนเสื้อเหลือง ที่ปิดถนนมาหลายสัปดาห์ แต่การชุมนุมครั้งนี้ถือว่ามีผู้เข้าร่วมชุมนุมมากที่สุดเนื่องจากการปฏิรูประบบบำนาญดังกล่าวกระทบกับคนจำนวนมมาก
และจากการสำรวจความคิดเห็นของคนฝรั่งเศส พบว่า คนฝรั่งเศสมีทั้งสนับสนุนและคัดค้านในสัดส่วนที่ไม่แตกต่างกันทำให้การออกกฏหมายฉบับนี้มีความเสี่ยงที่จะสร้างความแตกแยกในสังคมฝรั่งเศส