แม้ว่าเวลานี้ เรายังหนีไม่พ้นการระบาดของเจ้าวายร้ายจากโควิด -19 ทำให้ติดอยู่ในกับดักของ New Normal ที่ต้องยึดหลัก “ใส่แมส กินร้อน อยู่ห่าง ล้างมือ” จนกว่าจะควบคุมการระบาดในระลอกใหม่นี้ให้ได้
แต่หลังจากจบโควิด-19 แล้ว เราจะสามารถกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมได้หรือไม่ หรือชีวิตของคนจะเปลี่ยนไป อย่างที่ใครๆ เรียกกันว่า ยุค Next Normal ซึ่งจะเปลี่ยนพื้นฐานการใช้ชีวิต ผ่านการเปลี่ยนแปลงแนวคิด “ปัจจัยพื้นฐาน” ในการดำรงชีวิต ตั้งแตการเปลี่ยนแนวคิดของปัจจัย 4 ดั้งเดิม คือ อาหาร ที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค รวมทั้งปัจจัยพื้นฐานอีก 3 ปัจจัยที่ตอนนี้กลายเป็นปัจจัยที่ 5-6-7 ที่ขาดไม่ได้เช่นกัน คือ ยานพาหนะ โทรศัพท์ และเงิน
โดยจากการศึกษาจำนวนมาก เชื่อว่า ปัจจัยพื้นฐานที่จะเปลี่ยนไปนี้ จะกลายเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของการใช้ชีวิตและทัศนคติของคนในยุคใหม่ แต่จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร เรามีมาให้อ่านกัน
ปัจจัยพื้นฐาน ปัจจัยที่ 1 อาหาร : เน้นการกินเพื่อสุขภาพ
เทรนด์ของอาหารการกินที่จะเปลี่ยนไปหลังจากปรากฎการณ์โควิด-19 โดยจะเป็นไปตามทิศทางที่คนจะรักษาสุขภาพมากขึ้น ดังนั้น นอกเนือจากอาหารในยุค Next Normal จะดีต่อสุขภาพ ยังจะต้องไม่ก่อให้เกิดผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว รูปแบบการบริโภคอาหาร สไตล์มังสวิรัต แบบไทย ที่ทานเนื้อสัตว์น้อยลง กินไข่ กินนมได้ แต่เน้นส่วนผสมที่เป็นผัก ผลไม้ และ ธัญพืชต่าง ๆ มากกว่า หรือใช้เนื้อสัตว์ทางเลือกที่ทำจากพืชที่ให้โปรตีนสูง แทนเนื้อสตว์ จะได้รับความนิยมเป็นวงกว้าง
ขณะเดียวกัน สินค้าอุปโภคบริโภคในยุค Next Normal จสินค้าที่ผลิตจากธรรมชาติ ปราศจากสารปรุงแต่ง อย่างสูตรorganic หรือ natural ได้รับความยิม เช่นเดียวกับ บรรจุภัณฑ์แบบย่อยสลายได้หรือ ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ทำให้เกิดขยะส่วนเกิน
ปัจจัยที่ 2 ที่อยู่อาศัย : smart home บ้านเดี่ยวอัจริยะ
จะมีการนำเทคโนโลยี Internet of Thing มาช่วยเพื่อตอบสนองการใช้ชีวิตที่บ้านได้อย่างสะดวกสบายและปลอดภัยมากขึ้น เช่น การสั่งเปิด – ปิดไฟ และ เครื่องปรับอากาศ ผ่านแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ (homeautomation) รวมทั้ง การมีระบบสื่อสารที่ทรงประสิทธิภาพมากขึ้นในราคาที่ถูกลง เพื่อรองรับการทำงานที่บ้านด้วย
นอกจากนั้น ภายใต้ เทรนด์ Next Normal คอนโดมิเนียมที่เคยเป็นเทรนด์หลักของที่อยู่อาศัยในยุคนี้จะลดความนิยมลง เพราะมีความแออัด เจอผู้คนจำนวนมาก ต้องพบปะในของสาธารณะร่วมกัน ซึ่งเสี่ยงต่อการระบาดของโรค โดยคนรุ่นใหม่จะกลับไปหา “บ้านเดี่ยว”มากขึ้น
ปัจจัยที่ 3 เครื่องนุ่งห่ม : มีสไตล์แต่ยั่งยืน
เครื่องนุ่งห่ม ในยุค Next Normal จะไม่ได้ต้องตอบสนองด้านความสวยงาม สะท้อนภาพลักษณ์ของ ผู้สวมใส่เพียงอย่างเดียว แต่ยังต้องสะท้อนการรักษาธรรมชาติ และความยั่งยืนของโลกใบนี้มากขึ้น โดยให้คุณค่ากับการเลือกใช้วัสดุและกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นด้วย
ปัจจัย 4 ยารักษาโรค : ป้องกันมากกว่ารักษา
ทัศนคติของคนยุคหลังโควิด 19 ที่มีต่อเรื่องสุขภาพจะมองหา “ยาเพื่อป้องกัน” ไม่ให้เกิดโรค มากกว่า แสวงหา “ยา” มารักษาอาการเมื่อสุขภาพแย่ หรือเกิดโรคร้ายแรงขึ้นแล้ว ยุค Next Normal จึงเป็นยุคที่เชื่อ “ธุรกิจอาหารเสริม” จะเฟื่องฟู
ปัจจัยที่ 5 ยานพาหนะ : เน้นพลังงานสะอาด
รถยนต์ ถือเป็นปัจจัยที่ 5 ที่คนส่วนใหญ่ขาดไม่ได้ ซึ่งในยุค Next Normal รถยนต์ ยานยนต์ไร้คนขับ และรถยนต์ไฟฟ้า จะพบเห็นได้ทั่วไปใ เพราะการใช้พลังงานทดแทนและพลังงานหมุนเวียน จะทวีความสำคัญมากขึ้น โดยคาดว่ามีการพัฒนาให้ดีขึ้น ต้นทุนของพลังงานเหล่านี้ลดลง โดยเฉพาะพลังงานที่มาจากแสงอาทิตย์และเชื้อเพลิงขยะ
ปัจจัยที่ 6 โทรศัพท์มือถือ : ล้ำสมัยใส่ใจสิ่งแวดล้อม
ถึงวันนี้คงไม่มีใครปฏิเสธได้ว่า โทรศัพท์มือถือ ไม่ใช่ปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิต แต่โทรศัพทฺมือถือในโลกใหม่ จะยิ่ง้ำสมัยมากกว่าเดิมด้วยการอัปเดตนวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาไม่ขาดสาย ขณะเดียวกันก็หันมาใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เช่น ล่าสุด iPhone12 และ Samsang s21 ประกาศไม่ให้หัวชาร์จแบตเตอรี่สำหรับลูกค้าที่ซื้อเครื่องใหม่ เพื่อเป็นการลดขยะอิเล็กทรอนิกส์
ขณะที่โซเชียลมีเดีย หรือคอนเทนต์ต่างๆ บนโทรศัพท์จะเพิ่มขึ้น ปรับเปลี่ยนรูปแบบ และมีฟีเจอร์ใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองการใช้งานที่หลากหลาย มีแนวคิดการตลาดเพื่อดึงดูดใจผู้ใช้งานมากมายผ่านการใช้วีดีโอสั้น และการแพร่ภาพสด
ปัจจัยที่ 7 เงิน :ใช้จ่ายผ่านแอปฯ–ลดการสัมผัสแบงก์–เหรียญ
ปัจจัยสุดท้าน แต่ขาดแทยไม่ได้เช่นกัน ในยุค Next Normal เชื่อ่าคนไทยจะหันมาจับจ่าย e-payment กันมากขึ้น และลดการสัมผัสเงินสดลง ทั้งการจ่ายผ่านการ์ดแทนเงินสด หรือบัตรเครดิต บัตรเดบิตต่างๆ และการใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชั่นธนาคาร internet & mobile banking หรือแอปฯ กระเป๋าสตางค์อิเลกทรอนิกส์ หรือ เพื่อชำระค่าสาธารณูปโภคการซื้อสินค้าออนไลน์ e-(commerce) รวมทั้งการจับจ่ายอื่นๆ ด้วย
