- แต่ยังอยู่แดนบวกปิดตลาดปรับขึ้นต่อเป็นวันที่9
- ข้อมูลเศรษฐกิจความเชื่อมั่นผู้บริโภค-ยอดค้าปลีกดีขึ้น
- หุ้นแอปเปิลดิ่งลงกว่า1.94%
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงปิดบวกเป็นวันที่9 เมื่อคืนวันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลยอดค้าปลีก และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐที่สูงเกินคาด แต่เมื้อเทียบกับช่วงที่ผ่านมา ดัชนีอยู่ในระดับต่ำสุดนับตั้งแต่การเลือกตั้งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ
โดยความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของภาษีนำเข้าต่อเศรษฐกิจภายในประเทศ ส่งผลกระทบต่อการลงทุน โดยตลาดรอปัจจัยใหม่ เช่น การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯในสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ แม้ดาวโจนส์ยังเป็นบวก แต่ดัชนีบวกน้อยลงเรื่อยๆ โดยปิดตลาดดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,219.52 จุด เพิ่มขึ้น 37.07 จุด หรือ +0.14% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,007.39 จุด ลดลง 2.18 จุด หรือ -0.07% ส่วนดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 8,176.71 จุด ลดลง 17.75 จุด หรือ -0.22%
หุ้นบลูชิพมากกว่าครึ่งจากทั้งหมด 30 ตัวในดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นในช่วงใกล้ปิดตลาด โดยหุ้นแคทเธอร์ พิลลาร์ บวก 1.54% และหุ้นโบอิ้ง เพิ่มขึ้น 1.10% แต่หุ้น 7 ใน 11 กลุ่มของเอสแอนด์พี 500 ปิดลดลง นำโดยหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ลบ 1.27%
หุ้นแอปเปิลร่วง 1.94% หลังโกลด์แมน แซคส์ ปรับลดเป้าหมายราคาหุ้นแอปเปิลลง จากวิธีการทำบัญชีของแอปเปิลจะส่งผลกระทบเชิงลบอย่างมากต่อผลประกอบการ
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนส.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.2% จากระดับ 0.8% ในเดือนก.ค. และเมื่อเทียบรายปี ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 4.1% ในเดือนส.ค.
