ตลาดหุ้นสหรัฐฯ แกว่งตัวกังวลสหรัฐฯขู่เก็บภาษีอียู

  • ตอบโต้อียูผิดกฎหมายช่วยอุตสาหกรรมการบิน
  • ความเชื่อมั่นเพิ่ม 100% เฟดลดดอกเบี้ย ก.ค.
  • ทรัมป์ ทวิตส์ “เศรษฐกิจสหรัฐฯดีที่สุดที่เคยมีมา”

ดัชนีดาวโจนส์ เปิดตลาดพลิกติดลบอีกครั้ง ผลจากความกังวลมาตรการกีดกันการค้ารอบใหม่ ซึ่งครั้งนี้สหรัฐขู่ที่จะเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมจากสินค้านำเข้าจากสหภาพยุโรป (EU) วงเงิน 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่คาดดัชนีจะแกว่งตัวขึ้นลงตลอดทั้งวัน

เมื่อเวลาประมาณ 22.10 น.ตามเวลาประเทศไทย สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงาน ตัวเลขดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ กลับมาเป็นบวก 0.03% หรือเพิ่มขึ้น 7.80 จุด ทำให้ดัชนีอยู่ที่ 26,725.23 จุด หลังจากที่เปิดตลาดติดลบ

ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก ติดลบ 0.05% อยู่ที่ 8,088.16 จุด เพิ่มขึ้น 3.56 จุด ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปรับตัวขึ้น 0.04% ปิดที่ 2,965.34 จุด เพิ่มขึ้น 1.17จุด

หลังจากที่ตลาดเพิ่งจะดีใจกับข้อตกลงการค้าที่มีความคืบหน้าที่ดีระหว่างสหรัฐฯกับจีน ที่คาดว่าจะยุติสงครามการค้าได้ สหรัฐฯ กำลังพิจารณาเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมจากสินค้านำเข้าจาก EU วงเงิน 4,000 ล้านดอลลาร์lsiy{O เพื่อตอบโต้ต่อการที่ EU ให้เงินอุดหนุนอย่างผิดกฎหมายแก่อุตสาหกรรมผลิตเครื่องบิน

โดยสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ได้เสนอให้มีการปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจาก EU จำนวน 89 รายการ คิดเป็นมูลค่า 4 พันล้านดอลลาร์ โดยรายการสินค้าดังกล่าวครอบคลุมถึง ชีส นม กาแฟ ผลิตภัณฑ์โลหะบางชนิด เช่นทองแดง รวมถึงวิสกี้ และผลิตภัณฑ์เนื้อหมู

หากผลการตัดสินขององค์การการค้าโลก (WTO) กรณีที่ EU ให้เงินอุดหนุนการผลิตเครื่องบิน โดยเฉพาะต่อบริษัทแอร์บัส เป็นไปในทางลบขณะเดียวกัน USTR จะจัดทำประชาพิจารณ์ในเดือนหน้าเกี่ยวกับการเรียกเก็บภาษีดังกล่าวต่อ EU

ขณะที่ มุมมองต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในเดือน ก.ค.นี้ของนักลงทุนเพิ่มขึ้นเป็น 100% สอดคล้องกับการเรียกร้องอย่างต่อเนื่องของประธานาธิบดีทรัมป์ที่ขอให้เฟดปรับลดดอกเบี้ยลงเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีทรัมป์ ทวิตส์วันนี้ ว่า “เศรษฐกิจสหรัฐฯอยู่ในช่วงที่ดีที่สุดเท่าเคยมีมา”