ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เปิดตลาดทรงๆ รอทีท่าเจรจาการค้าจีน-สหรัฐฯ

  • นักลงทุนลุ้นสุดตัว “ยุติสงครามการค้า”
  • ระบุ มิ.ย.ปีนี้ “เดือนที่ดีที่สุด” หุ้นสหรัฐฯ
  • “ทรัมป์”อ้างเครดิตเป็นประธานาธิบดีหุ้นเขียว

นักลงทุนจับตาการเจรจาการค้าระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิงในวันเสาร์นี้ ส่งผลดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ เปิดทรงๆ รอดูสถานการณ์

เมื่อเวลาประมาณ 21.30 น.ตามเวลาประเทศไทย สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงาน ตัวเลขดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ กลับมาปรับตัวขึ้นเล็กน้อยหลังร่วงติดกัน 2 วัน โดยปรับขึ้น 0.11% หรือเพิ่มขึ้น 28.78 จุด ทำให้ดัชนีขึ้นมาอยู่ที่ 26,555.36 จุด ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก ปรับบวกเล็กน้อย 0.08% อยู่ที่ 7,974.43 จุด เพิ่มขึ้น 6.66 จุด ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปรับตัวขึ้น 0.17% ปิดที่ 2,929.78 จุด เพิ่มขึ้น 4.92 จุด

การประชุมทวิภาคีระหว่างผู้นำสหรัฐและผู้นำจีนในวันเสาร์เวลา 9.30 น.ตามเวลาประเทศไทย ถือเป็นเหตุการณ์ที่ถูกจับตามองมากที่สุดในการประชุมสุดยอด G20 และมีการคาดเดาไปหลากหลายทิศทาง ทั้งมีความหวังว่า สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนจะสิ้นสุดลงได้ในเวลาอันใกล้ หรือจะอีกแค่การเจรจาระดับผู้นำอีกครั้งหนึ่ง ที่ไม่มีบทสรุปที่ชักเจน ส่งให้ยังคงยืดเยื้อและส่งผลกระทบต่อตลาดการเงิน และเศรษฐกิจโลกต่อไป

ประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งในขณะนี้อยู่ที่กรุงโอซากา ประเทศญี่ปุ่น กล่าวคาดหวังว่า การเจรจาระหว่างเขาและประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เกี่ยวกับการแก้ไขความขัดแย้งทางการค้า จะได้ผลที่น่าพึงพอใจ แต่เขาปฏิเสธข่าวที่ว่า เขาได้ให้สัญญาต่อจีนว่า สหรัฐจะผ่อนผันการเรียกเก็บภาษีครั้งใหม่ต่อสินค้านำเข้าจากจีนออกไปอีก 6 เดือน

ขณะที่เจ้าหน้าที่จีนแสดงความหวังว่า สหรัฐและจีนจะพบกันครึ่งทางในการเจรจาการค้าครั้งนี้

ทั้งนี้ การซื้อขายในเดือน มิ.ย.ปีนี้ ถือเป็นเดือน มิ.ย.โดยถือเป็นเดือนมิ.ย.ที่ีดีที่สุด ของดัชนีเอสแอนด์พี 500 ตั้งแต่ปี 1955 ในเดือน มิ.ย.นี้ ปรับตัวดีขึ้น 6.3% และเพิ่มขึ้น 17% นับตั้งแต่ต้นปี ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 6.9% ในเดือนนี้ และเพิ่มขึ้น 14% นับตั้งต้นปี สำหรับดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 6.9% ในเดือนมิ.ย.นี้เช่นกัน และเพิ่มขึ้นถึง 20% นับตั้งแต่ต้นปี

ประธานาธิดีทรัมป์ ได้ออกมาระบุทวิตเตอร์ร จากกรุงโอซากา ว่า ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทได้พุ่งขึ้นอย่างมากนับตั้งแต่ที่เขาชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ แต่ตลาดจะทรุดตัวลง หากฮิลลารี คลินตัน ชนะการเลือกตั้ง

“ตลาดหุ้นได้พุ่งขึ้นอย่างมากนับตั้งแต่ที่ผมชนะการเลือกตั้ง จนถึงวันที่ผมเข้ารับตำแหน่ง เพราะความกระตือรือร้นจากความจริงที่ว่า ผมจะได้เป็นประธานาธิบดี ซึ่งผมควรได้รับเครดิตจากการทะยานขึ้นของตลาดหุ้น แต่ตลาดจะทรุดตัวลง หากฮิลลารี คลินตัน ชนะเลือกตั้งในวันนั้น” ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ

%%%%%%%%