ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ลดต่อเนื่องตามผลประกอบ การ ที่ไม่ชัดเจน-ไม่มั่นใจอีซีบีกระตุ้นเศรษฐกิจ

  • เทสลา-ฟอร์ด -เพย์ พาว ปรับลง -โบอิ้งร่วงไม่หยุด
  • มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอีซีบี ไม่โดนใจนักลงทุน
  • รอลุ้นเฟดลดดอกเบี้ยนโยบายปลายเดือนนี้

เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจน์ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 เคลื่อนไหวอยู่ที่ 27,215.16 จุด
ลดลง 54.81 จุด หรือลดลง -0.20% ขณะที่ดัชนีแนสแด็กส์ คอมโพซิท เคลื่อนไหวอยู่ที่ 8,278.83 จุด ปรับลดลง 42.67 จุด หรือ -0.51% ด้านดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ 3,013.47 จุด ลดลง 6.09 จุด หรือ -0.20%

ตลาดแกว่งตัว ตามผลประกอบการบริษัทใหญ่ที่ออกมาไม่ชัดเจน มีทั้งดีขึ้น และลดลง โดยบริษัทจำนวน 33% ของดัชนี S&P 500 ได้ประกาศผลประกอบการออกมาแล้ว ซึ่งในจำนวนดังกล่าว ราว 75% ได้รายงานตัวเลขกำไรสูงกว่าคาด อย่างไรก็ตามในวันนี้ หุ้นเทสลา ฟอร์ด และ เพย์ พาว ปรับตัวลดลง

โดยราคาหุ้นของบริษัทฟอร์ดดิ่งลง 6% หลังจากรายงานผลประกอบการที่ต่ำกว่าคาด ขณะที่ราคาหุ้นโบอิ้งร่วงลง 3.5% หลังจากประสบภาวะขาดทุนอย่างหนักในไตรมาส 2 โดยมีสาเหตุจากการที่เครื่องบิน 737 MAX ยังคงถูกสั่งห้ามบิน

นอกจากนั้น แม้ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะมีแนวโน้มการผ่อนคลายนโยบายการเงิน แต่ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้นักลงทุนพอใจ

โดยธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมกับคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.40% ขณะที่คงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25%

อย่างไรก็ตาม อีซีบี ส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงินลงอีกในระยะต่อไป โดยระบุว่า จะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับปัจจุบันต่อไป หรือปรับลดลง อย่างน้อยจนถึงช่วงครึ่งปีแรกของปี 2563

นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารอีซีบี กล่าวว่า การใช้มาตรการกระตุ้นทางการเงินครั้งใหญ่ยังคงมีความสำคัญ เพื่อรับประกันว่าสภาวะทางการเงินมีความแข็งแกร่ง และเอื้อต่อการขยายตัวของยูโรโซน โดยกรรมการอีซีบี ทุกคนเห็นพ้องกันว่า มีความจำเป็นที่จะต้องใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป แม้สมาชิกยังคงเห็นต่างเกี่ยวกับเครื่องมือทางการเงินที่จะนำมาใช้

ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 30-31 ก.ค. รวมทั้งการเจรจาการค้าระหว่างเจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนที่นครเซี่ยงไฮ้ในวันที่ 30-31 ก.ค.เช่นกัน

นักลงทุนส่วนใหญ่คาดว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนนี้ ขณะที่นายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ ยังแสดงความเชื่อมั่นต่อการเจรจาการค้าระหว่างเจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนในสัปดาห์หน้าว่า จะยังคงมีความคืบหน้าต่อไป

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาค่อนข้างดี โดยสหรัฐฯเผยจำนวนผู้ขอสวัสดิการว่างงานต่ำสุดรอบ 3 เดือน สวนทางคาดการณ์ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 10,000 ราย สู่ระดับ 206,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่กลางเดือนเม.ย. สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 219,000 ราย

ขณะที่ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพุ่งสูงสุดรอบ 10 เดือนในมิ.ย. โดยพุ่งขึ้น 2% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.ในปีที่แล้ว และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.5% หลังจากร่วงลงติดต่อกัน 2 เดือน