ตลาดหุ้นสหรัฐฯกลับมาคึกคัก หลังประธานเฟดส่งสัญญาณลดดอกเบี้ย

  • เอสแอนด์พี 500 ผ่าน 3,000 จุดครั้งแรกระหว่างวัน
  • นักลงทุนเริ่มมั่นใจดันดัชนีดาวโจนส์กลับมาบวก
  • นักวิเคราะห์มองบวกชี้เฟดไม่เคยทำให้ผิดหวัง

ตลาดหุ้นวอลล์สตรีท กลับมาคึกคักทันที หลังจากสื่อเผยแพร่แถลงการณ์ของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะกล่าวต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรวันที่ 10 ก.ค. เมื่อเวลา 21.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ซึ่งมีเนื้อหาส่งสัญญาณการปรับลดอัตราดอกเบี้ย

โดยดัชนีเอสแอนด์พี 500 และดัชนีแนสแด็ก ปรับตัวทำลายสถิติสูงสุดระหว่างวันอีกครั้ง โดยดัชนีเอสแอนด์พี 500 พุ่งทะลุ 3,000 จุดเป็นครั้งแรกในประวัติการณ์ ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ ปรับเพิ่มขึ้นทันทีตั้งแต่เปิดตลาดเช่นกัน

เมื่อเวลาประมาณ 21.45 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีดาวโจนส์ เคลื่อนไหวอยู่ที่ 26,917.52 จุด +134.03 จุด+0.50% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 มีแรงเทขายให้ย่อตัวลงมาอยู่ที่ 2,993.87 จุด โดยยัง +14.24 จุด หรือ +0.48%

ส่วนดัชนีแนสแด็กส์ เคลื่ิิอนไหวที่ 8,186.30 จุด +44.57 จุด หรือ +0.55%

โดยแถลงการณ์ของนายพาวเวลล์ ที่จัดเตรียมไว้ระบุว่า เฟดจะ”ดำเนินการอย่างเหมาะสม” เพื่อรักษาการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ขณะที่มี”ปัจจัยลบหลายประการ”กำลังถ่วงแนวโน้มเศรษฐกิจ โดยระบุด้วยว่า การลงทุนของภาคธุรกิจในสหรัฐฯ ได้ชะลอตัวลงในระยะนี้ ท่ามกลางความไม่แน่นอนต่อแนวโน้มทางเศรษฐกิจ

นอกจากนี้ รายงานการประชุมเฟดประจำวันที่ 18-19 มิ.ย.ที่เปิดเผยในวันที่ 10 ก.ค.เช่นกัน ระบุว่า ในการประชุมที่ผ่านมา เฟดมีมติ 9-1 เสียงใ นการคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น โดยนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟด สาขาเซนต์หลุยส์ เป็นกรรมการเฟดเพียงคนเดียวที่ลงมติให้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันดังกล่าว

โดยเฟดยังได้ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ค. ท่ามกลางความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจ

ขณะที่นายโจเซฟ ลาวอร์ญา หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของบริษัทนาทิซิส ระบุในบทวิเคราะห์ว่า”เฟดไม่เคยสร้างความผิดหวังต่อตลาดซึ่งมีการคาดการณ์สูงเกี่ยวกับการลดอัตราดอกเบี้ย โดยจะเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน หากเฟดจะฝืนตลาดด้วยการไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ย”

ทั้งนี้ หากเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 30-31 ก.ค. ตามการคาดการณ์ ก็จะถือเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ของเฟดด้วยการลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี โดยเฟดไม่เคยดำเนินการดังกล่าวนับตั้งแต่เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ในปี 2551