ตลาดหุ้นสหรัฐผันผวน ดาวโจนส์แกว่งตัวแคบแดนบวกจับตาโควิด กระทบเศรษฐกิจรอบ 2

.”ทรัมป์” ยืนยันว่าจะไม่มีการสั่งล็อกดาวน์สหรัฐเป็นรอบที่ 2 ตามอังกฤษแน่นอน
.นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ทำดัชนีแนสแด็ก-เอสแอนด์พี 500 อยู่ในแดนลบ
.ตลาดจับตาถ้อยแถลประธานเฟด ต่อคณะอนุกรรมการว่าด้วยวิกฤตการณ์ไวรัสโควิด-19 สภาคองเกรส

เมื่อเวลา 21.20 น.ตามเวลาประเทศไทย ตลาดหุ้นสหรัฐเคลื่อนไหวผันผวน ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ 27,320.97
จุด เพิ่มขึ้น 32.79 จุด หรือ +0.12% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 10,873.13 จุด ลดลง 90.50 จุด หรือ -0.83% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 3,302.43 จุด ลดลง 13.14 จุดหรือ 0.38%

นักลงทุนจับตาการแพร่ระบาดของโควิด-19 หลัง Worldometer ซึ่งเป็นเว็บไซต์รายงานข้อมูลล่าสุดที่มีการรวบรวมจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลก ระบุว่า สหรัฐมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 7,098,291 ราย และมีผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 205,491 ราย โดยสหรัฐติดอันดับ 1 ของโลกทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และผู้เสียชีวิต

อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกมายืนยันว่าจะไม่มีการสั่งล็อกดาวน์สหรัฐเป็นรอบที่ 2โดยระบุว่า “อังกฤษประกาศชัตดาวน์อีกแล้ว แต่เราจะไม่ดำเนินการเช่นนั้น เพราะเรามีความเข้าใจต่อเชื้อไวรัสโควิด-19 และรู้วิธีการจัดการกับมัน”

การยืนยันดังหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจสหรัฐ เช่น สายการบิน ค้าปลีก และธุรกิจเรือสำราญปรับตัวขึ้น
อย่างไรก็ตาม มีแรงเทขายหุ้นเทคโนโลยีออกมอีกครั้ง จากความกังวลประเด็นความขัดแย้างระหว่างสหรัฐกับจีน ซึ่งอาจกระทบการลงทุนของบริษัทในกลุ่มดังกล่าว

ราคาหุ้นไนกี้พุ่งขึ้น หลังบริษัทเปิดเผยผลประกอบการสูงกว่าคาด ทำให้นักลงทุจับตาผลประกอบการของบริษัทอื่นๆนตลาดหลังการคลายล็อกดาวน์ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้กิจกรรมเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้น

ตลาดจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต่อคณะอนุกรรมการว่าด้วยวิกฤตการณ์ไวรัสโควิด-19 ในสภาคองเกรสวันนี้ หลังจากที่เขาได้เข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเมื่อวานนี้เกี่ยวกับการดำเนินการของเฟดในการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19