ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิดลบ 104 จุด แรงเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี

.อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 14 เดือน
.นักลงทุนจับตาประธานาธิบดีโจ ไบเดน ซึ่งจะเปิดแผนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานในวันนี้


ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 30 มี.ค.ที่ 33,066.96 จุด ลดลง 104.41 จุด หรือ -0.31% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,958.55 จุด ลดลง 12.54 จุด หรือ -0.32% ดัชนีแแนสแด็ก คอมโพซิสปิดที่ 13,045.40 จุด ลดลง 14.25 จุด หรือ -0.11%

นักลงทุนเทขายหุ้นเทคโนโลยีซึ่งมีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งทะลุ 1.77% แตะระดับสูงสุดในรอบ 14 เดือนเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นแอปเปิล ร่วงลง 1.23% หุ้นไมโครซอฟท์ ดิ่งลง 1.44% หุ้นอินเทล ลดลง 1.13% หุ้นแอมะซอนดอทคอม ลดลง 0.66% หุ้นเฟซบุ๊ก ลดลง 0.97% หุ้น Nvidia ปรับตัวลง 0.59%

อย่างไรก็ดี นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ เช่นหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมและกลุ่มสายการบิน หลังจากสหรัฐมีความคืบหน้าในการฉีดวัคซีน โดยหุ้นเจเนอรัล อิเล็กทริก (จีอี) พุ่งขึ้น 2.78% หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ พุ่งขึ้น 1.22% หุ้นโบอิ้ง บวก 0.51% หุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ ทะยานขึ้น 5.28% หุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ พุ่งขึ้น 3.36% หุ้นเซาท์เวสต์ แอร์ไลน์ ปรับตัวขึ้น 1.56%

หุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้นเช่นกกัน หลังนักลงทุนคลายความกังวลหลังมีสัญญาณบ่งชี้ว่า กรณีที่บริษัทเฮดจ์ฟันด์ Archegos Capital Management ผิดนัดชำระหนี้ในการวางหลักประกันการลงทุนเพิ่ม (Margin Call) นั้น ไม่ได้ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง ทั้งนี้ หุ้นโกลด์แมน แซคส์ พุ่งขึ้น 2.01% หุ้นเวลส์ ฟาร์โก พุ่งขึ้น 2.47% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ เพิ่มขึ้น 1.57% หุ้นเจพีมอร์แกน บวก 1.18% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา พุ่งขึ้น 1.75% หุ้นซิตี้กรุ๊ป เพิ่มขึ้น 1.94%

หุ้น PayPal Holdings ดีดตัวขั้น 0.37% หลังจากบริษัทประกาศเริ่มรับสกุลเงินคริปโตจากลูกค้าในการซื้อสินค้า

ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐยังออกมาในทิศทางที่ดีโดยผลสำรวจของ Conference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 109.7 ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มเกิดการระบาดของโควิด-19 ในเดือนมี.ค.2563 จากระดับ 90.4 ในเดือนก.พ. และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 96.9

ผลสำรวจของเอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์ ระบุว่า ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐพุ่งขึ้น 11.2% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดในรอบ 7 ปี

นักลงทุนจับตาแผนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานวงเงิน 3 ล้านล้านดอลลาร์ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน โดยคาดว่าเขาจะเปิดเผยโครงการดังกล่าวในวันนี้ (31 มี.ค.) รวมทั้งยังรอดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนมี.ค.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้