ตลาดปลากลางทะเลแห่งแรกในไทยวุ่น! ผู้ค้าเก่าแอบเอาแผงขายเช่าช่วงดันราคาพุ่งจาก 1.2แสนบาท เป็น 7 แสนบาท

  • องค์การสะพานปลารีบออกมาเบรค
  • เปิดรับผู้ค้ารายใหม่วางเงินจองสิทธิ์ได้
  • แจงทุกคนมีสิทธิ์ขาย ถ้าจ่ายรักษาสิทธิ์

นายมณเฑียร อินทร์น้อย ผู้อำนวยการองค์การสะพานปลา (อสป.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ตลาดประมงอ่างศิลา “Fish Marketing Organization” ตลาดปลากลางทะเลแห่งแรกในประเทศไทย ที่จะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในต้นเดือนธ.ค.2563 นี้ มีผู้ค้าที่สนใจขอเข้ามาเปิดแผงขายสินค้าอาหารทะเลเพิ่มขึ้น 84 ราย จากเดิมที่มีการยืนยันสิทธิ์ไว้แล้ว 283 ราย และผู้ที่มีรายชื่อตกหล่น ซึ่งเป็นกลุ่มประมงอ่างศิลาเดิมอีก 16 ราย รวม 383 รายซึ่งเกินกว่าพื้นที่ทั้งหมดที่องค์การสะพานปลาจัดไว้จะมีโซนแห้งและโซนเปียก รวมร้านค้ากว่า 316 แผง

อย่างไรก็ตาม กลุ่มใหม่ 84 ราย มีความต้องการที่จะได้พื้นที่ร้านค้า เพื่อใช้ประกอบอาชีพ จึงขอวางหลักประกันไว้ก่อน หากมีผู้สละสิทธิ จะขอโอกาสเข้ามาเปิดแผงขายในพื้นที่ดังกล่าวแทนได้ทันทีที่เปิดตลาดในเดือนธ.ค.2563 ซึ่งองคึการสะพานปลามองว่าคนกลุ่มนี้ก็ควรได้รับสิทธิด้วยเช่นกัน เพราะพวกเขาก็เป็นคนอ่างศิลา เป็นคนชลบุรี และองค์การสะพานปลา ก็เป็นหน่วยงานของรัฐ สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นของคนไทยทุกคนด้วยเช่นกัน

ส่วนกรณีที่มีกลุ่มผู้มีผลประโยชน์ เข้ามาจะเอาแผงค้าไปปล่อยต่อหรือเช่าช่วง โดยปั่นราคาสูง ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ราคา 400,000-700,000 บาท จาก 120,000 บาท การจัดการพื้นที่ตลาดขององค์การสะพานปลา ในฐานะเป็นผู้บริหารพื้นที่ จึงจำเป็นต้องสร้างกฎกติกา การอยู่ร่วมกัน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งการเปิดให้กลุ่มใหม่ 84 รายเข้ามารอสิทธิ์ได้ก็เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม

“ขอยืนยันว่า ที่ผ่านมาองค์การสะพานปลา ได้ช่วยเหลือผู้ค้า และชาวประมงพื้นบ้านมาโดยตลอด เป็นองค์กรที่ไม่เคยหวังผลค้ากำไรแต่อย่างใด ทั้งนี้ ท่าเทียบเรืออ่างศิลา จากผู้ค้าเดิมที่ขายอยู่บริเวณท่าเทียบเรือประมงอ่างศิลา 173 ราย เพิ่มเป็น 283 ราย และเพิ่มอีก 16 ราย รวมเป็น 299 รายขณะที่พื้นที่มีจำกัด ในฐานะผู้กำกับดูแลจึงจำเป็นต้องจัดการให้ได้ เพื่อพี่น้องประชาชน จึงเป็นที่มาของการขอกู้เงินจำนวน 45 ล้านบาท ในอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 5 % ต่อปี เพื่อดำเนินการโครงการนี้ต่อให้แล้วเสร็จ และเงินที่ได้จากผู้ค้าที่วางสิทธิ์ 120,000 บาทต่อแผง และค่าเช่ารายเดือนๆละ 3,000 บาท เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ส่วนที่เหลือเป็นภาระขององค์การสะพานปลาเอง”

นายมณเฑียร กล่าวว่า ท่าเทียบเรือประมงอ่างศิลา ก่อสร้างมาตั้งแต่ ปี 2501 จนเมื่อ ปี 2559 ได้ตรวจสอบพบว่า ท่าเทียบเรือประมงอ่างศิลาชำรุดทรุดโทรมมาก เกรงว่าจะอาจเกิดอันตรายกับผู้ค้า นักท่องเที่ยว และประชาชนที่มาใช้บริการได้ องค์การสะพานปลา จึงมีแผนดำเนินการก่อสร้างใหม่ โดยขออนุมัติงบประมาณ 186 ล้านบาท เพื่อมาปรับปรุงท่าเทียบเรืออ่างศิลาให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ซึ่งการก่อสร้างกว่า 2 ปีที่ผ่านมา มีปัญหาติดขัดหลายอย่าง ไม่สามารถดำเนินการได้แล้วเสร็จ จนวันที่ 18 มิ.ย. 2562 ที่ผ่านมาตนได้เข้ามารับตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการองค์การสะพานปลาคนใหม่ จึงทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้น และพยายามแก้ไขปัญหามาโดยตลอด ซึ่งองค์การสะพานปลา ในฐานะหน่วยงานของรัฐ ได้ดำเนินการตามนโยบายของรัฐมนตรีที่กำกับดูแล นายประภัตร โพธสุธน ซึ่งท่านได้ให้ความสำคัญ และได้ลงพื้นที่กำกับและติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด และได้ประสานความร่วมมือกับทุกภาคส่วน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานราชการต่างๆ ในจังหวัดชลบุรีเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น จนปัจจุบันการก่อสร้างมีความคืบหน้าไปมากแล้วกว่า 90% แล้ว และพร้อมเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในต้นเดือนธ.ค.นี้