- ชี้เนื้อหาที่นำมาอภิปรายไม่ซ้ำ
- ค้านอย่างมีเหตุผล
- สิ่งที่ไม่อยากเห็น คือ ทะเลาะเบาะแว้ง
สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,021 คน โดยทำการสำรวจทางออนไลน์ ระหว่างวันที่ 4-7 กรกฎาคม 2565 กรณีที่ฝ่ายค้านยื่นญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในวันที่ 19 -22 ก.ค.65 โดยพุ่งเป้าไปที่ 11 รัฐมนตรี ส่งผลให้การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ถูกจับตามอง
เนื่องจากอาจเป็นการอภิปรายครั้งสุดท้ายก่อนที่รัฐบาลจะครบเทอมและเข้าสู่การเลือกตั้งใหญ่ต่อไป เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของประชาชน ซึ่งเมื่อถาม ณ วันนี้ ถึงเวลาหรือยังที่จะเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 83.38 ระบุถึงเวลาแล้ว 83.38% ขณะที่ร้อยละ 16.62 ระบุยังไม่ถึงเวลา ส่วนประชาชนสนใจติดตาม “การอภิปรายไม่ไว้วางใจ” ที่กำลังจะมีขึ้นหรือไม่ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 71.02 สนใจ และร้อยละ 28.98 ไม่สนใจ
ทั้งนี้ เมื่อถามว่าประชาชนอยากให้มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจในเรื่องใดบ้าง พบว่า ประชาชน ร้อยละ 75.67 อยากให้อภิปรายผลงานของรัฐบาลในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจมากที่สุด รองลงมา ร้อยละ73.49 ต้องการให้อภิปรายสาเหตุของสินค้าแพง การควบคุมราคาสินค้า พร้อมกันนี้ สิ่งที่ประชาชนอยากเห็นจากการอภิปราย คือ เนื้อหาที่นำมาอภิปรายไม่ซ้ำ ค้านอย่างมีเหตุผล มีหลักฐาน ถึงร้อยละ 80.18 สิ่งที่ไม่อยากเห็น คือ การโต้เถียง ทะเลาะเบาะแว้ง การประท้วงบ่อยครั้ง ร้อยละ 84.33 และมองว่า การอภิปรายที่กำลังจะมีขึ้นอาจจะมีผลให้เกิดการยุบสภา ร้อยละ 46.03
สำหรับรัฐมนตรีที่ควรจะถูกยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ อันดับ 1 คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ร้อยละ 78.51 อันดับ 2 คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ร้อยละ 65.17 อันดับ 3 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ร้อยละ 61.30 อันดับ 4 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ร้อยละ 50.20 และอันดับ 5 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ร้อยละ 38.59
จากผลโพลสะท้อนให้เห็นว่าประชาชนส่วนใหญ่อยากให้มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ฝ่ายค้านจึงควรใช้โอกาสนี้อย่างคุ้มค่าในการซักฟอกรัฐบาลเป็นปากเป็นเสียงให้กับประชาชน ส่วนรัฐบาลเองก็ควรชี้แจงผลงานที่ชัดเจนโดยเฉพาะอย่างยิ่งการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และสาเหตุของสินค้าแพงค่าแรงถูกเป็นสิ่งที่ประชาชนคาใจและอยากจะรู้ ทั้งนี้ประชาชนก็หวังว่าการอภิปรายครั้งนี้จะมีข้อมูลใหม่ ๆ ไม่ประท้วงนอกประเด็น ไม่เป็นเพียงการละคร เพื่อให้การอภิปรายนั้นเป็นประโยชน์ต่อประชาชนอย่างแท้จริง
