ดีอีเอส เตือนอย่าหลงเชื่อ!! น้ำมันไม่มีคุณภาพ เพราะเป็นข่าวปลอม

  • โออาร์จัดหาน้ำมันเพื่อจำหน่ายตามเงื่อนไขจากโรงกลั่นชั้นนำในประเทศ
  • คุณภาพน้ำมันเป็นไปตามที่ กรมธุรกิจพลังงาน กระทรวงพลังงาน เป็นผู้กำหนด

นางสาวนพวรรณ หัวใจมั่น โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมฝ่ายการเมือง (ดีอีเอส) กล่าวว่า ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับประเด็นเรื่อง ปตท. นำน้ำมันไม่มีคุณภาพมาจาก 3 กองทัพ ที่ตุนไว้ระยะเวลา 5-6 ปี หมดสภาพมาให้ตามปั๊มต่าง ๆ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) กระทรวง พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

จากกรณีที่มีการส่งต่อข้อความแจ้งคุณภาพน้ำมัน โดยอ้างว่าปตท. ไทยประดิษฐ์ก็จริงแต่คุณภาพห่วยแตกมาก เพราะว่าน้ำมันบางครั้งนำมาจากกองทัพอากาศ กองทัพบก กองทัพเรือที่ตุนไว้เวลาเกิดศึกสงครามใช้ระยะเวลา 5-6 ปีเมื่อน้ำมันหมดสภาพก็จะนำเข้ามาตามปั๊มต่าง ๆ ทางบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) กระทรวงพลังงาน ได้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวและชี้แจงว่า บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ เป็นบริษัทในกลุ่ม ปตท. ด้านการค้าน้ำมันและการขายปลีก เป็นหนึ่งในผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 7 และเป็นผู้บริหารแบรนด์สถานีน้ำมัน พีทีที สเตชั่น (PTT Station) หรือเดิมที่รู้จักกันในชื่อสถานีบริการน้ำมัน ปตท. ซึ่งโออาร์ ไม่ได้มีการจัดหาน้ำมันจากหน่วยงานราชการหรือหน่วยงานอื่นใดนอกเหนือจากโรงกลั่นชั้นนำในประเทศ เพื่อมาจำหน่ายให้ผู้บริโภคและ โออาร์ ให้ความสำคัญกับการควบคุมคุณภาพน้ำมันอย่างเข้มงวดตลอดทุกขั้นตอน ตั้งแต่กระบวนการผลิตขนส่ง จัดเก็บ และจำหน่าย และไม่ได้มีการนำน้ำมันที่ไม่มีคุณภาพมาเพื่อจำหน่ายที่สถานีบริการน้ำมัน พีทีที สเตชั่นตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลแต่อย่างใด

โดยโออาร์จัดหาน้ำมันเพื่อจำหน่ายตามเงื่อนไขจากโรงกลั่นชั้นนำในประเทศ โดยคุณภาพน้ำมันเป็นไปตามที่ กรมธุรกิจพลังงาน กระทรวงพลังงาน เป็นผู้กำหนด ซึ่งตลอดทั้งกระบวนการจัดส่งน้ำมันตั้งแต่จากต้นทางคือโรงกลั่นน้ำมัน ไปยังคลังน้ำมัน และต่อไปจนไปถึงปลายทางคือสถานีบริการน้ำมัน พีทีที สเตชั่น เพื่อจำหน่ายให้ผู้บริโภค เป็นไปตามขั้นตอนมาตรฐาน และมีการควบคุมคุณภาพตลอดทั้งกระบวนการ

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ และขอความร่วมมือไม่ส่งต่อ หรือแชร์ข้อมูล จนกว่าจะตรวจสอบความถูกต้องให้ชัดเจนเสียก่อน เพื่อมิให้เกิดความสับสนและตื่นตระหนกในสังคม เพราะในปัจจุบันนี้มีข่าวปลอมในลักษณะนี้เกิดขึ้นทุกวัน การกระทำของผู้ที่ผลิตข่าวปลอมและผู้ที่เผยแพร่ เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2),(5) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ผลิตข่าวปลอมและผู้ที่เผยแพร่ทุกรายอย่างเด็ดขาดจริงจังและต่อเนื่องต่อไป

นอกจากนี้ หากพี่น้องประชาชนพบเบาะแสการกระทำความผิด สามารถแจ้งผ่าน 4 ช่องทาง ได้แก่ เว็บไซต์https://www.antifakenewscenter.com ,เฟซบุ๊ก ANTI-FAKE NEWS CENTER, ทวิตเตอร์ @AFNCThailand, ไลน์@antifakenewscenter และช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง