“ดีอีเอส” เตือนหยุดสร้างข่าวปลอม แจงทุกภาคส่วนเร่งแก้ไขสถานการณ์อย่างเต็มที่

  • บิดเบือนข้อมูลข่าวสาร ผิดพ.ร.บ.คอมพ์ มาตรา 14(2), (5)
  • จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 นางสาวนพวรรณ หัวใจมั่น โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมฝ่ายการเมือง (ดีอีเอส) กล่าวว่า ตามที่มีการเผยแพร่ภาพในโซเชียลมีเดียต่าง ๆ เรื่อง จ.ภูเก็ตพบผู้เสียชีวิตตามที่สาธารณะเป็นจำนวนมาก ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

กรณีที่โพสต์ข่าวระบุว่า พบผู้เสียชีวิตจำนวนมากกลางถนนที่จังหวัดภูเก็ตนั้น ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตได้ตรวจสอบและชี้แจงข้อเท็จจริงว่า ไม่เป็นความจริงตามที่โพสต์ดังกล่าวระบุแต่อย่างใด โดยโพสต์ที่ถูกเผยแพร่ดังกล่าวทำให้จังหวัดภูเก็ตได้รับความเสียหาย กระทบต่อภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวอย่างรุนแรง

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.pkto.moph.go.th หรือโทร. 076-212297, 076-222913

ฝากเตือนไปยังผู้ที่สร้างข่าวปลอมต่างๆให้หยุดการกระทำนั้นเสีย ทุกภาคส่วนกำลังเร่งแก้ไขสถานการณ์อย่างเต็มที่  ซึ่งการกระทำดังกล่าวในลักษณะการผลิตและเผยแพร่ข่าวปลอม หรือบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร ทำให้เกิดความตื่นตระหนก เกิดความสับสนวุ่นวาย โดยเฉพาะในสถานการณ์ฉุกเฉิน เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2), (5) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และเป็นความผิดฐานฝ่าฝืนข้อกำหนด ประกาศ หรือ คำสั่งที่ออกตามความมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ ฝากประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชนว่า ก่อนจะแชร์ หรือส่งต่อข้อความใดๆ ควรตรวจสอบให้ดีเสียก่อน เพราะอาจตกเป็นเหยื่อ หรือถูกหลอกลวง หรืออาจไปสร้างความสับสน เกิดความตื่นตระหนกแก่ผู้อื่น โดยทุกท่านสามารถติดตามและแจ้งเบาะแสข่าวปลอม ได้ผ่านช่องทางต่างๆ ของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ดังนี้ ไลน์ @antifakenewscenter  เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com/ ทวิตเตอร์ https://twitter.com/AFNCThailand และช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87 เพื่อหลีกเลี่ยงจากการเป็นเหยื่อข่าวปลอมหรือข่าวบิดเบือน