- นักลงทุนเก็งกำไรหุ้นได้ประโชน์คจากการเปิดธุรกิจ-เปิดเมือง
- ตลาดจับตาวามสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและจีนตึงเครียด
- โอเปก-รัสเซียลดกำลังการผลิตดันราคาน้ำมัันปรับขึ้น
เมื่อเวลา 21.55 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ 25,618.06 จุด เพิ่มขึ้น 143.04 จุด หรือ +0.56% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 9,516.42 จุด ติดลบ 35.63 จุด หรือ 0.38% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 3,063.46 จุด เพิ่มขึ้น 7.73 จุด หรือ 0.24%
นักลงทุนเชื่อม่ั่นการคลายล็อกดาวน์ในหลายเมืองในสหรัฐ จะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐกลับมาขยายตัวอีกครั้ง ทำให้มีแรงซื้อกลับเข้าในในหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจสหรัฐ เช่น โรงแรม สายการบิน ห้างสรรพสินค้า และธุรกิจเรือสำราญ ต่างก็ปรับตัวขึ้น
ขณะที่การชุมนุมประท้วงทั่วสหรัฐจากรณีการเสียชีวิตของชายผิวสี จากการกระทำรุนแรงเกินกว่าเหตุของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังไม่ส่งผลกระทบในขณะนี้ต่อราคาหุ้น อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ระบุว่า ปัจจัยดังกล่าวอาจกระทบตลาด หากการประท้วงยืดเยื้อผ่านช่วงฤดูร้อน จนทำให้รัฐบาลระงับแผนผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ และกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค
ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันในวันนี้ โดยสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI พุ่งขึ้นกว่า 1% ใกล้แตะระดับ 36 ดอลลาร์ในวันนี้ จากการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และรัสเซีย จะบรรลุข้อตกลงในการขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงจับตาความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีนในระยะนี้ หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่า เขาจะยกเลิกสถานะพิเศษของฮ่องกง เพื่อตอบโต้จีนที่ได้บังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่สำหรับฮ่องกง โดยรัฐบาลจีนอาจจะสั่งการให้บริษัทขนาดใหญ่ของรัฐบาลระงับการซื้อสินค้าเกษตรของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงถั่วเหลือง ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวอาจกระทบต่อข้อตกลงการค้าเฟสแรกที่จีนทำไว้กับสหรัฐในต้นปีนี้ ทั้งนี้ ความกังวลดังกล่าว ฉุดให้ตลาดหุ้นแนสแด็ก ติดลบเล็กน้อย
