.รมว.คลังสหรัฐฯ ยอมรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ไม่ออกก่อนเลือกตั้ง
.ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกกลับมาพุ่งขึ้นเหนือความคาดหมาย
.ตลาดยังคงวิตกการยุติการทดลองวัคซีนต้านโควิด-19
เมื่อเวลา 22.15 น.ตามเวลาประเทศไทย ตลาดหุ้นสหรัฐเคลื่อนไหวลดลงเป็นวันที่ 3 ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ 28,378.34 จุดลดลง135.66 จุด หรือ -0.48% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 11,638.06 จุด ลดลง 130.67 จุด หรือ -1.11% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 3,463.83 จุด ลดลง 24.84 จุด หรือ -0.71%
นักลงทุนยังกังวลต่อความขัดแย้งระหว่างทำเนียบขาวและสภาคองเกรสในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยคาดว่า การออกมาตรการกระตุ้นรอบใหม่ จะไม่เกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 3 พ.ย.นี้
นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ยอมรับว่า พรรคเดโมแครตและรีพับลิกันยังคงมีความขัดแย้งกันในหลายประเด็น ซึ่งรวมถึงวงเงินในมาตรการดังกล่าว โดยนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ได้ปฏิเสธข้อเสนอวงเงิน 1.8 ล้านล้านดอลลาร์ของทำเนียบขาว โดยระบุว่า วงเงินดังกล่าวไม่เพียงพอต่อการเยียวยาผลกระทบของโควิด-19 ขณะที่พรรคเดโมแครตเสนอวงเงิน 2.2 ล้านล้านดอลลาร์
นอกจากนั้น ตัวเลขคนว่างงานล่าสุดในสหรัฐที่ออกมาสูงเกินคาดทำให้ตลาดกังวลมากขึ้น โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจำนวน 898,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค. และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 830,000 ราย หลังจากอยู่ที่ระดับ 845,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้านี้
ด้านดัชนีราคานำเข้าปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากดีดตัวขึ้น 1.0% ในเดือนส.ค.เมื่อเทียบรายปี ดัชนีราคานำเข้าลดลง 1.1% ในเดือนก.ย. หลังจากลดลง 1.4% ในเดือนส.ค.
ขณะที่ดัชนีราคาส่งออกเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี ดัชนีราคาส่งออกลดลง 1.8% หลังจากดิ่งลง 2.7% ในเดือนส.ค.
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) ลดลงสู่ระดับ 10.5 ในเดือนต.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 12.3 จากระดับ 17.0 จุดในเดือนก.ย.
ทั้งนี้ ตลาดยังไม่รับแรงกดดัันจากปัญหาการผลิตวัคซีนต้านโควิด-19 โดยเข้าสู๋วันที่ 3 ที่บริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (J&J) ระงับการทดลองวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 หลังพบผู้เข้าร่วมการทดลองรายหนึ่งล้มป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุ และบริษัท Eli Lilly & Co ประกาศระงับการรับอาสาสมัครเข้าร่วมการทดลองแอนติบอดีสำหรับการรักษาโรคโควิด-19 เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัย ขณะที่หลายประเทศในยุโรปเริ่มปิดเมืองอีกครั้ง เพื่อลดการระบาดรอบ 2
