ดาวโจนส์ ร่วง 56 จุด นักลงทุนกังวลเศรษฐกิจ ฟื้นช้า-หลายประเทศโควิด ระบาดรอบ 2

  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เผยยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น1.2% ในเดือนก.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาด
  • ตลาดกังวลมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบไม่ตกลงไม่ได้ ทำเศรษฐกิจฟื้นช้ากว่าคาด
  • หลายประเทศในยุโรป เช่น อังกฤษ และฝรั่งเศสพบโควิด-19 ระบาดรอบสอง

เมื่อเวลา 21.20น.ตามเวลาประเทศไทย ตลาดหุ้นสหรัฐเคลื่อนไหว ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ 27,840.43 จุด ลดลง
56.29 จุด หรือ -0.20% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่10,993.44 จุด ลดลง 49.06 จุด หรือ -0.44% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 3,367.80 จุด ลดลง 5.63 จุด หรือ -0.17%

นักลงทุนผิดหวังตัวเลขการค้าปลีกที่เพิ่มขึ้นน้อยว่าคาด หลังได้รับแรงกดดันจากการที่หลายรัฐในสหรัฐฯชะลอการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ หลังพบการแพร่ระบาดรอบใหม่ของโควิด-19 ขณะเดียวกัน ประเทศหลัก เช่น อังกฤษ และฝรั่งเศส กำลังประสบกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 รอบ 2 ทำให้เทขายหุ้นออกมา โดยหุ้นเทคโนโลยีปรับตัวลดลง หลังจากที่เพิ่มขึ้นติดต่อกันมา 2 วัน

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้นเพียง 1.2% ในเดือนก.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.9% หลังจากดีดตัวขึ้น 8.4% ในเดือนมิ.ย. ทั้งนี้ ยอดค้าปลีกที่เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยในเดือนก.ค.มาจากการแพร่ระบาดที่สูงในสหรัฐ ทำให้หลายรัฐชะลอการเปิดเศรษฐกิจช้าลง

นอกจากนั้้น นักลงทุนยังจับตาการเจรจาเพื่อตกลงออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ที่ล่าช้ามา 2 สัปดาห์ด้วย โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ระบุว่า ประเด็นที่ยังคงสร้างความขัดแย้งในการเจรจาระหว่างทำเนียบขาวและสภาคองเกรสเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ คือการที่พรรคเดโมแครตเรียกร้องให้ร่างกฎหมายเยียวยาภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 จะต้องรวมถึงการให้เงินช่วยเหลือจากรัฐบาลกลางแก่สำนักงานไปรษณีย์จำนวน 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อการส่งบัตรเลือกตั้งทางไปรษณีย์และการให้เงินทุนสนับสนุนการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 พ.ย.

นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ กล่าวว่า จุดยืนเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐระหว่างทำเนียบขาวและพรรคเดโมแครตยังคงมีความขัดแย้ง โดยนางเพโลซีไม่ได้ระบุว่าการเจรจาครั้งใหม่จะเริ่มขึ้นเมื่อใด แต่ยืนกรานว่า ตนจะไม่เจรจากับตัวแทนของทำเนียบขาวอีก จนกว่าจะสามารถหาทางประนีประนอมกันได้ระหว่างข้อเสนอของพรรคเดโมแครตในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงินมากกว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะที่ทำเนียบขาวต้องการให้มีวงเงินเพียง 1 ล้านล้านดอลลาร์