ดาวโจนส์ ดิ่งลงใกล้ 100 จุด จับตาผลประกอบการ-กังวลโควิดทำ เศรษฐกิจฟื้นช้า

.นักลงทุนจับตาการผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่เริ่มทยอยประกาศออกมา
.เจพีมอร์แกน เชส, ซิตี้กรุ๊ป และเวลส์ ฟาร์โก เปิดเผยผลประกอบการดีกว่าคาด
.ตลาดจับตาการฟื้นตัวเศรษฐกิจ หลังตัวเลขค้าปลีกต่ำกว่าคาด

เมื่อเวลา 21.50 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 30,898.82 จุด ลดลง 92.70 จุด หรือ -0.30% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 13,128.25 จุด เพิ่มขึ้น 15.61 จุด หรือ +0.12% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 3,785.47 จุด ลดลง 10.07 จุด หรือ -0.27%

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน โดยเจพีมอร์แกน เชส, ซิตี้กรุ๊ป และเวลส์ ฟาร์โก ต่างเปิดเผยตัวเลขกำไรสูงกว่าคาดในไตรมาส 4/2563 โดยซิตี้กรุ๊ประบุว่า ธนาคารมีกำไรที่ระดับ 2.08 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.34 ดอลลาร์/หุ้นขณะที่เวลส์ ฟาร์โก ระบุว่า ธนาคารมีกำไร 64 เซนต์/หุ้น สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 60 เซนต์/หุ้น

อย่างไรก็ตาม การประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของนายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ไม่ได้ช่วยหนุนดัชนีมากนัก เนื่องจากมีวงเงินต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ 2 ล้านล้านเหรียญฯ

นอกจากนั้น ภาวะเศรษฐกิจยังไม่เห็นการฟื้นตัวที่ชัดเจน หลังมีการล็อกดาวน์รอบ 2 ในหลายรัฐ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกลดลง 0.7% ในเดือนธ.ค ซึ่งเป็นการปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 3 หลังจากลดลง 1.4% ในเดือนพ.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ายอดค้าปลีกจะทรงตัวในเดือนธ.ค.

การร่วงลงของยอดค้าปลีกได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และการที่ภาคครัวเรือนมีรายได้ลดลง เนื่องจากชาวอเมริกันจำนวนมากประสบภาวะตกงาน

ส่วนยอดค้าปลีกพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมยอดขายรถยนต์ น้ำมัน วัสดุก่อสร้าง และอาหาร ดิ่งลง 1.9% ในเดือนธ.ค. หลังจากลดลง 1.1% ในเดือนพ.ย.

ทางด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนธ.ค. หลังจากขยับขึ้น 0.1% ในเดือนพ.ย.
เมื่อเทียบรายปี ดัชนี PPI ปรับตัวขึ้น 0.8% ในเดือนธ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.8% เช่นกันในเดือนพ.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ดัชนี PPI จะปรับตัวขึ้น 0.4% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน และเพิ่มขึ้น 0.8% เมื่อเทียบรายปี