ดาวโจนส์แกว่งตัวแคบ เคลื่อนไหวลดลงกว่า 40 จุด กังวลเงินเฟ้อสูง แต่คาดเฟดยังไม่ลด QE

.นักลงทุนส่วนใหญ่กังวลการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐพุ่งขึ้น ทำให้ขายหุ้นลดความเสี่ยง
.นักวิเคราะห์คาดเฟดยังไม่ปรับลดวงเงิน QE ขณะนี้แต่จะหารือในการประชุมประจำปีที่เมืองแจ็กสัน โฮล
.ตลาดมีแรงซื้อสลับขาย ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐดีดตัวขึ้นต่อเนื่อง

เมื่อเวลา 22.10 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 34,424.11จุด ลดลง 42.38 จุด หรือ -0.12% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 14,026.15 ขุด เพิ่มขึ้น 5.82 จุด หรือ +0.04% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 4,237.96 จุด ลดลง 1.22 จุด หรือ -0.03%

ตลาดหุ้นสหรัฐแกว่งตัวผันผวน โดยนักลงทุนยังคงเข้าซื้อหุ้มสะสมสลับการขายหุ้นออก เพื่อลดความเสี่ยงในหุ้นที่อ่อนไหวต่อการอัตราดอกเบี้ย ทั้งนี้ นักลงทุนส่วนใหญ่กังวลการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐพุ่งขึ้นเกินคาดเมื่อวานนี้ อย่างไรก็ตาม มีการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังไม่เปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินในการประชุมสัปดาห์หน้า แม้สหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งขึ้นเกินคาดเมื่อวานนี้

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเฟดจะยังคงรักษาจุดยืนในการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินในการประชุมวันที่ 15-16 มิ.ย. โดยเฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% และยังคงเดินหน้าซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) วงเงิน 1.2 แสนล้านดอลลาร์/เดือน

โดยคาดว่าเฟดจะเริ่มหารือกันเกี่ยวกับการปรับลดวงเงิน QE ในการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 26-28 ส.ค.ที่จะถึงนี้ และจะเริ่มดำเนินการปรับลด QE ในเดือนธ.ค.หรือต้นปีหน้า ก่อนที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปี 2566

ทั้งนี้ การประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮลในปีนี้ จะเป็นการประชุมแบบพบหน้ากัน หลังจากที่เมื่อปีที่แล้ว เฟดต้องจัดการประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ครั้งแรกในรอบเกือบ 40 ปี เพื่อลดความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
โดยไฮไลท์จะอยู่ที่การกล่าวปาฐกถาของประธานเฟดในขณะนั้นเพื่อแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับนโยบายการเงินของเฟด และแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งคาดว่านายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด จะส่งสัญญาณการปรับลดวงเงิน QE ท่ามกลางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและตลาดแรงงานสหรัฐ หลังจากที่เจ้าหน้าที่เฟดหลายรายได้ออกมาส่งสัญญาณให้ตลาดการเงินเตรียมตัวพร้อมรับการถอนมาตรการผ่อนคลายทางการเงินของเฟดก่อนหน้านี้

ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจยังแสดงความเชื่อมั่นและการฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐดีดตัวสู่ระดับ 86.4 ในเดือนมิ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 84.0 จากระดับ 82.9 ในเดือนพ.ค. โดยได้แรงหนุนจากการที่ผู้บริโภคคลายความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อในสหรัฐ และมีความเชื่อมั่นมากขึ้นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจและการจ้างงาน เช่นเดียวกัยดัชนีบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน และคาดการณ์ในอนาคตต่างดีดตัวขึ้นในเดือนมิ.ย.