ดาวโจนส์เปิดตลาดในแดนบวก มีความหวังยุติสงครามการค้าคืบ

  • มนูซิน ระบุเจรจาข้อตกลงการค้าจีนคืบ 90%
  • “ทรัมป์”เรียกร้องลดธนาคารกลางเร่งดอกเบี้ย
  • วิพากษ์ประธานเฟดทำหน้าที่แย่-แต่ไม่ปลด

ดัชนีดาวโจนส์ เปิดตลาดวันพุธที่ 26 มิ.ย.ปรับตัวกลับมาเป็นบวก ท่ามกลางความหวัง การเจรจาเพื่อบรรเทาความขัดแย้งของสงครามการค้าจะได้ข้อยุติ

เมื่อเวลาประมาณ 21.45 น.ตามเวลาประเทศไทย สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงาน ตัวเลขดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวขึ้น +0.24% หรือเพิ่มขึ้น 64.87 / จุด ทำให้ดัชนีอยู่ที่ 26,613.09 จุด

ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก ปรับบวก+0.72% อยู่ที่ 7,941.40 จุด เพิ่มขึ้น 56.69จุด ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปรับตัวขึ้น 0.22% ปิดที่ 2,923.93 จุด เพิ่มขึ้น 6.55จุด

ก่อนหน้านี้ นายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า สหรัฐฯและจีนใกล้บรรลุข้อตกลงการค้าแล้ว “เราทำข้อตกลงได้ราว 90% แล้ว และผมคิดว่าเรามีทางที่จะบรรลุข้อตกลงโดยสมบูรณ์” โดยเขามีความเชื่อมั่นว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิงจะสามารถสร้างความคืบหน้าต่อการเจรจาการค้าในการประชุม G20 ที่นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ได้

“พวกเขาต้องการกลับสู่โต๊ะเจรจา และดำเนินการเจรจาต่อไป เพราะจะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจของพวกเขา และเศรษฐกิจของสหรัฐณ หากมีการค้าที่สมดุล และเรารักษาความสัมพันธ์นี้ต่อไป” นายมนูชินกล่าว

ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกมาแสดงความมั่นใจในวันนี้ เกี่ยวกับการบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับจีนและยังระบุด้วยว่า “หากทั้งสองฝ่ายยังคงไม่สามารถบรรลุข้อตกลง เขาพร้อมที่จะเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนที่เหลืออีก 3.5 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯที่เหลือ แต่เขาจะเรียกเก็บภาษีเพียง 10% แทนที่จะเป็น 25%” ซึ่งเป็นทิศทางที่ดี

อย่างไรก็ตาม นายทรัมป์ ระบุว่า เขามีความสุขมากต่อสิ่งที่กำลังเป็นอยู่ เพราะสหรัฐฯ กำลังได้เงินภาษีก้อนโต ซึ่งไม่เป็นเรื่องที่ดีสำหรับจีน แต่เป็นเรื่องดีสำหรับสหรัฐฯ

“ผมมีมุมมองเกี่ยวกับการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าแตกต่างจากคนอื่น โดยนับตั้งแต่ที่สหรัฐเรียกเก็บภาษี 25% ต่อสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 2.5 แสนล้านเหรียญฯ ตลาดของเราก็มีความคึกคัก ขณะที่พวกเขาต้องการที่จะทำข้อตกลงมากกว่าพวกเรา”

ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกมาเรียกร้องให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อให้สหรัฐสามารถแข่งขันกับประเทศอื่น ซึ่งกำลังลดค่าเงิน

“เฟดควรจะต้องลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อให้เราแข่งขันกับจีนได้ ขณะที่ประเทศอื่นกำลังกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งถ้าพวกเขาลดค่าเงิน และเราไม่ได้ทำ เราก็ไม่ได้อยู่ในสนามแข่งขันที่เท่าเทียมกัน”

นายทรัมป์ ยังกล่าวถึงนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดว่า ทำหน้าที่ได้แย่มากในการกำกับดูแลนโยบายการเงิน และแม้เขามีอำนาจที่จะปลดนายพาวเวล แต่เขาก็ไม่เคยบอกว่าจะทำเรื่องดังกล่าว