.ตลาดลุ้นผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้
.สัญญาณทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย-ถ้อยแถลงพาวเวล
.นักลงทุนซื้อขายหุ้น เก็งกำไรผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่ทยอยประกาศออกมา
เมื่อเวลาประมาณ 22.15 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ 34,640.45 จุด เพิ่มขึ้น 342.72 จุด หรือ ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ระดับ 13,814.01 จุด เพิ่มขึ้น 274.72 จุด หรือ +2.03%
ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ระดับ4,422.48 จุด เพิ่มขึ้น 66.03 จุด หรือ +1.52%
นักลงทุนซื้อหุ้นสะสม หลังราคาลดลงในช่วงก่อนหน้า จับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้ ขณะที่ติดตามการประกาศผลประกอบการของบริษัทขนาดใหญ่ที่จะทยอยประกาศออกมา ทั้งนี้ ตลาดรับรู้ความเสี่ยงจากแนวโน้ของเฟดแล้วในระดับหนึ่ง
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.00-0.25% ในการประชุมนโยบายการเงินวันนี้ แต่โฟกัสสำคัญจะอยู่ที่การแถลงข่าวหลังการประชุมของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ซึ่งตลาดจะจับตาการส่งสัญญาณทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด
ขณะที่ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักมากถึง 100% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมนโยบายการเงินในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นเดือนที่เฟดยุติโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) พร้อมกับคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีนี้
ราคาหุ้นไมโครซอฟท์พุ่งขึ้น ขานรับการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่ง ด้าน AT&T บริษัทสื่อยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ เปิดเผยกำไรและรายได้สูงกว่าคาดในไตรมาส 4/64 เช่นกัน อย่างไรก็ดี บริษัทโบอิ้งเปิดเผยตัวเลขขาดทุนมากกว่าคาดในไตรมาส 4/64 โดยได้รับผลกระทบจากการรับรู้ค่าใช้จ่ายก่อนหักภาษีวงเงิน 3.5 พันล้านดอลลาร์ของเครื่องบินรุ่น 787 Dreamliners แต่ปัญหาด้านการผลิตทำให้บริษัทต้องชะลอการส่งมอบเครื่องบินรุ่นดังกล่าวออกไป
ด้าน สมาคมนายธนาคารเพื่อการจำนอง (MBA) ของสหรัฐ เปิดเผยว่า จำนวนผู้ที่ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการรีไฟแนนซ์ลดลง 13% ในสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองปรับตัวขึ้น เมื่อเทียบรายปี จำนวนผู้ที่ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการรีไฟแนนซ์ดิ่งลง 53%
ผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการซื้อที่อยู่อาศัยลดลง 2% ในสัปดาห์ที่แล้ว และร่วงลง 11% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้เฉลี่ยเพื่อการจำนองแบบคงที่ระยะเวลา 30 ปี สำหรับวงเงินกู้ไม่เกิน 647,200 ดอลลาร์ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 3.72% จากระดับ 3.64% ก่อนหน้านี้
