ดาวโจนส์เคลื่อนไหวติดลบกว่า 200 จุด เจอแรงเทขายทำกำไร หลังวานนี้ขึ้นแรง

.นักลงทุนซื้อขายหุ้นเก็งกำไรบริษัทขนาดใหญ่เปิดผลประกอบการ
.หุ้นแอปเปิลร่วงลงแรง หลังถูกตัดสินละเมิดกฎหมายป้องกันการผูกขาดตลาดยุโรป
.การใช้จ่ายส่วนบุคคลของผู้บริโภคสหรัฐพุ่งขึ้น 4.2% ในเดือนมี.ค.

เมื่อเวลา 22.05 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 33,833.65 จุด ลดลง
226.71 จุด ลดลง -0.67% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 14,006.24 จุด ลดลง 76.31 จุด หรือ -0.54% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 4,183.20 จุด ลดลง 28.27 จุด -0.67%

นักลงทุนยังคงติดตามและซื้อขายหุ้นทำกไร ตามผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ที่แต่ละบริษัททยอยประกาศออกมา โดยวันนี้เริ่มมีแรงขายทำกำไรออกมาหลังหลายบริษัทประกาศผลประกอบการออกมาแล้วในช่วงก่อนหน้า

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด บริษัทแอมะซอนเปิดเผยผลประกอบการประจำไตรมาส 1 โดยระบุว่า บริษัทมีกำไร 15.79 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 9.54 ดอลลาร์/หุ้น ขณะที่รายได้อยู่ที่ระดับ 1.0852 แสนล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.0447 แสนล้านดอลลาร์

ขณะที่ราคาหุ้นแอปเปิลร่วงลงแรง หลังจากที่คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของสหภาพยุโรป (EU) แถลงว่า บริษัทแอปเปิล อิงค์ได้ละเมิดกฎหมายป้องกันการผูกขาดตลาด โดยได้ครอบงำตลาดแอปพลิเคชั่นสตรีมมิ่งเพลงผ่านทาง App Store

EC ออกแถลงการณ์ระบุว่า “EC ได้แจ้งบริษัทแอปเปิลว่าทางบริษัทได้บิดเบือนการแข่งขันในตลาดสตรีมมิ่งเพลง โดยใช้สถานะการครอบครองตลาดผ่านทาง App Store โดยขั้นตอนต่อไป แอปเปิลจะต้องทำการชี้แจงต่อ EC เพื่อแก้ข้อกล่าวหาดังกล่าว

ขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจยังฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายส่วนบุคคลของผู้บริโภคสหรัฐพุ่งขึ้น 4.2% ในเดือนมี.ค. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 4.1% หลังจากลดลง 1.0% ในเดือนก.พ.

นอกจากนี้ รายได้ส่วนบุคคลพุ่งขึ้น 21.2% ในเดือนมี.ค. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 20.3% หลังจากลดลง 7.0% ในเดือนก.พ.

การพุ่งขึ้นของการใช้จ่ายและรายได้ส่วนบุคคลได้รับแรงหนุนจากการที่รัฐบาลสหรัฐส่งเช็คเงินสดให้แก่ชาวอเมริกันตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐยังเปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนมี.ค.
เมื่อเทียบรายปี ดัชนี PCE ดีดตัวขึ้น 2.3% ในเดือนมี.ค. หลังจากปรับตัวขึ้น 1.5% ในเดือนก.พ.

ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนมี.ค.เมื่อเทียบรายปี ดัชนี PCE พื้นฐาน ปรับตัวขึ้น 1.8% ในเดือนมี.ค.