ดาวโจนส์ร่วง375จุดผิดหวังทรัมป์หยุดเจรจามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

.ทรัมป์สั่งทำเนียบขาวระงับการเจรจาการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่

.นักลงทุนเทขายหุ้น หวั่นในอนาคตเศรษฐกิจฟื้นตัวช้า

.เฟดระบุมาตรการกระตุ้นฯล่มกระทบครัวเรือน-ธุรกิจแน่

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 6ต.ค.ที่ 27,772.76 จุด ลดลง 375.88 จุด หรือ -1.34% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 11,154.60 จุด ลดลง 177.89 จุด หรือ -1.57% ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,360.95 จุด ลดลง 47.68 จุด หรือ -1.40%

ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลงแรง หลังคณะบริหารของทำเนียบขาวระงับการเจรจาเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่กับพรรคเดโมแครต ไปจนถึงหลังวันเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 3 พ.ย. ซึ่งข่าวดังกล่าวถือเป็นการดับความหวังของนักลงทุนที่ต่างก็เชื่อมั่นว่า ทำเนียบขาวและพรรคเดโมแครตจะสามารถบรรลุข้อตกลงเพื่อออกมาตรการดังกล่าวในเร็วๆนี้

ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ทวีตข้อความว่า “ผมได้สั่งการให้คณะบริหารของผมระงับการเจรจาเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่กับพรรคเดโมแครต ไปจนถึงหลังวันเลือกตั้ง ซึ่งเมื่อผมชนะการเลือกตั้ง เราก็จะผ่านร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งสำคัญ ซึ่งจะมุ่งเน้นไปที่การให้ความช่วยเหลือชาวอเมริกันที่ทำงานหนัก และภาคธุรกิจขนาดเล็ก”

ก่อยหน้านี้ นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ และนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ อยู่ระหว่างเดินหน้าเจรจาต่อรองกันเกี่ยวกับวงเงินในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่เพื่อเยียวยาประชาชนและภาคธุรกิจ โดยพรรคเดโมแครตเสนอวงเงิน 2.2 ล้านล้านดอลลาร์ และผ่านสภสผู้แทนราษฎรไปแล้ว ขณะที่คณะบริหารของทำเนียบขาวเสนอวงเงิน 1.6 ล้านล้านดอลลาร์

นอกจากนี้ การตัดสินใจดังกล่าวยังมีขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกมาเรียกร้องให้สภาคองเกรสเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เนื่องจากสหรัฐยังคงจำเป็นต้องใช้มาตรการทางการเงินและการคลังเพื่อกระตุ้นให้เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้น มิฉะนั้นส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจและภาคครัวเรือน

หุ้นกลุ่มสายการบินซึ่งเป็นหุ้นกลุ้มที่ต้องการความช่วยเหลือจากรัฐร่วงลงอย่างหนักโดยหุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ ดิ่งลง 4.5% หุ้นยูไนเต็ด แอร์ไลน์ ร่วงลง 3.65% หุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ ดิ่งลง 2.97% หุ้นเซาท์เวสต์ แอร์ไลน์ ร่วงลง 2.36%

หุ้นโบอิ้ง ร่วงลง 6.3% หลังจากบริษัทโบอิ้งคาดการณ์ว่า ความต้องการเครื่องบินพาณิชย์จะลดลง 11% ในช่วง 10 ปีข้างหน้า

 หุ้นกลุ่มสินค้าผู้บริโภคปรับตัวลง โดยหุ้นโคคา โคล่า ลดลง 0.89% หุ้นเป๊ปซี่โค โค ร่วงลง 1.62% หุ้นไทสันฟู้ดส์ ลบ 0.61%

หุ้นเจเนอรัล อิเล็กทริก (จีอี) ดิ่งลง 4.1% หลังมีรายงานว่า จีอีได้รับหนังสือแจ้งจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) เกี่ยวกับการดำเนินการด้านบัญชี

หุ้นบริษัทเทคโนโลยีปรับตัวลงเช่นกัน โดยหุ้นไมโครซอฟท์ ดิ่งลง 2.12% หุ้นแอมะซอนดอทคอม ดิ่งลง 3.1% หุ้นอัลฟาเบท ร่วงลง 2.15% หุ้นเฟซบุ๊ก ร่วงลง 2.26% ส่วนหุ้นแอปเปิล ร่วงลง 2.87% แม้บริษัทประกาศจัดอีเวนต์ครั้งใหม่ในวันอังคารที่ 13 ต.ค. ซึ่งมีการคาดการณ์กันว่าแอปเปิลจะเปิดตัว iPhone 12

สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐพุ่งขึ้นมากกว่าคาดในเดือนส.ค. โดยเพิ่มขึ้น 5.9% สู่ระดับ 6.71 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2549 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.61 หมื่นล้านดอลลาร์