ดาวโจนส์ร่วงต่ออีกวันกว่า 100 จุด กังวลโควิดรอบ 3 หมดหวังคลอด มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

. ตลาดยังคงกังวลต่อการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในสหรัฐที่พุ่งสูง
.หมดหวังออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจก่อนเลือกตั้ง 3 พ.ย.
.นักลงทุนจับตาผลประกอบการไมโครซอฟท์หลังปิดตลาด

เมื่อเวลา 21.40 น.ตามเวลาประเทศไทย ตลาดหุ้นสหรัฐเคลื่อนไหวผันผวน ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ 27,574.43
จุด ติดลบ 110.95 จุด หรือ -0.40% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 11,397.82 จุด เพิ่มขึ้น 38.88 จุด หรือ +0.34%
ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 3,396.09 จุดลดลง 4.88 จุด หรือ-0.14%

ตลาดยังคงกังวลต่อการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในสหรัฐ ซึ่งอาจจะเข้าสู่สถานการณ์การระบาดรอบ 3 รวมทั้ง ความคืบหน้าของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งทำเนียบขาวแถลงในวันนี้ว่า มีแนวโน้มที่รัฐบาลและพรรคเดโมแครตจะสามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

“เรามีความเชื่อมั่นว่าเราจะบรรลุข้อตกลงในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า” นางอลิสซา ฟาราห์ โฆษกทำเนียบขาว กล่าว

อย่างไรก็ดี คำแถลงของทำเนียบขาวสร้างความกังวลว่าทั้งสองฝ่ายอาจไม่สามารถบรรลุข้อตกลงก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ สอดคล้องกะบโกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า สภาคองเกรสสหรัฐจะไม่สามารถออกกฎหมายว่าด้วยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐได้ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 3 พ.ย.

“หลายประเด็นสำคัญยังคงไม่ได้รับการแก้ไข ทำให้การบรรลุข้อตกลงไม่น่าจะเป็นไปได้” นายอเล็ก ฟิลลิปส์ นักเศรษฐศาสตร์ของโกลด์แมน แซคส์ ระบุในรายงาน

ขณะที่ การประกาศดัชนีความเชื่อมั่นฯ ในวันนี้ ร่วงลงจากการที่ผู้บริโภคมีความวิตกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เป็นอีกส่วนที่กดดันบรรยากาศซื้อขาย

โดยผลสำรวจของ Conference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 100.9 ในเดือนต.ค. จากระดับ 101.3 ในเดือนก.ย. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 102.0 ทั้งนี้ แม้ดัชนีความเชื่อมั่นต่อสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันปรับตัวขึ้นในเดือนต.ค. แต่ดัชนีความเชื่อมั่นต่อสภาวะเศรษฐกิจในช่วง 6 เดือนข้างหน้าปรับตัวลง

อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป พุ่งขึ้น 1.9% ในเดือนก.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.5% แสดงให้เห็นว่าแผนการใช้จ่ายของภาคธุรกิจ เพิ่มขึ้น 1.0% ในเดือนก.ย. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 0.5% หลังจากพุ่งขึ้น 2.1% ในเดือนส.ค.

ขณะที่ผลสำรวจของเอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์ ระบุว่า ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐเพิ่มขึ้น 5.7% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว หลังจากเพิ่มขึ้น 4.8% ในเดือนก.ค. ส่วนดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 5.2% หลังจากเพิ่มขึ้น 4.1% ในเดือนก.ค.

ทั้งนี้ มีแรงซื้อเข้ามาต่อเนื่องในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยนักลงทุนจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งรวมถึงบริษัทไมโครซอฟท์ คอร์ป ซึ่งจะเปิดเผยหลังจากปิดตลาดวันนี้