ดาวโจนส์ร่วงกว่า 600 จุด ขานรับสงครามรัสเซีย-ยูเครนปะทุ

.นักลงทุนเทขายหุ้นลดความเสี่ยง หวั่นสถานการณ์ยูเครนกระทบเศรษฐกิจโลก
.ดัชนีความผันผวน CBOE พุ่งสูงลิ่ว แสดงความกังวลที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
.ตลาดจับตาถ้อยแถลงนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)ต่อสภาคองเกรส

เมื่อเวลาประมาณ 22.50 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ 32,501.69 จุด ลดลง 630.07 จุด หรือ -1.90% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ระดับ 4,170.08 จุด ลดลง 55.42 จุด หรือ -1.31% ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ระดับ 112,936.65 จุด ลดลง 100.84 จุด -0.77%

นักลงทุนขายสินทรัพย์เสี่ยง ลงทุนให้สินทรัพย์ปลอดภัย โดยหุ้นทุกกลุ่มต่างร่วงลงในวันนี้ ซึ่งรวมถึงหุ้นกลุ่มพลังงาน แม้ว่าราคาน้ำมันทะยานขึ้นเหนือระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรล จากความกังวลการปะทุของสงครามยูเครนดัชนีความผันผวน CBOE หรือ CBOE Volatility Index (VIX) ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกของนักลงทุนในตลาดหุ้นวอลล์สตรีท พุ่งขึ้น 13.64% สู่ระดับ 35.25

ทั้งนี้ รัสเซียได้บุกโจมตียูเครนทั้งทางบก ทะเล และอากาศในวันนี้ ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์รุกรานประเทศครั้งใหญ่ที่สุดในยุโรปนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 นายดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวว่า การที่กองทัพรัสเซียบุกเข้าไปยังยูเครนมีสาเหตุจากการที่รัสเซียต้องการปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ

ตลาดจับตานายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรสในวันที่ 2-3 มี.ค. โดยอาจเป็นการแสดงความเห็นเกี่ยวกับนโยบายการเงินต่อสาธารณะเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่เฟดจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 15-16 มี.ค.

ทั้งนี้ ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐดิ่งลงต่อเนื่อง แม้ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาในวันนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 4/2564 ในวันนี้ โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัว 7.0% สูงกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 6.9% และสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ขฯะที่ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 17,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 232,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว โดยต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 235,000 ราย ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องลดลงสู่ระดับ 1.48 ล้านราย