.นักลงทุนกลับมาขายหุ้นทำกำไร หลังผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปีขยับขึ้น
.ตลาดยังคงกังวลทิศทางเศรษฐกิจ-เฟดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย
.นักลงทุนจับตาผลประกอบการค้าปลีก หลังทาร์เก็ต คอร์ป ประกาศผลประกอบการดีกว่าคาด
เมื่อเวลาประมาณ 22.10 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ 32,726.47 จุด ลดลง 162.62 จุด หรือ 0.49% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 11,479.07 จุด เพิ่มขึ้น 12.09 จุด หรือ0.11% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ระดับ 3,978.22 จุด ลดลง 4.02 จุด หรือ 0.10%
นักลงทุนกลับมาขายหุ้นอีกครั้ง หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐดีดตัวขึ้นอีกครั้ง โดยการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ซึ่งถือเป็นตัวอ้างอิงดอกเบี้ย จะทำให้ผู้บริโภคมีเงินสำหรับการใช้จ่ายลดน้อยลง และบริษัทต่างๆจะเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นจากการชำระหนี้ ทำให้บริษัทเหล่านี้ลดการลงทุน และลดการจ่ายเงินปันผลแก่นักลงทุน และยังชี้แนวโร้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)
ขณะที่ผลสำรวจของเอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์ บ่งชี้ว่า ราคาบ้านในสหรัฐได้ชะลอตัวในเดือนธ.ค.โดยดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐเพิ่มขึ้น 5.8% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายปี แต่ต่ำกว่าระดับ 7.6% ในเดือนพ.ย.
เมื่อพิจารณาตลอดทั้งปี 2565 ดัชนีราคาบ้านเพิ่มขึ้น 5.8% แต่ต่ำกว่าระดับ 18.9% ของปี 2564
ส่วนดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 4.6% ในเดือนธ.ค. แต่ชะลอตัวจากระดับ 6.8% ในเดือนพ.ย.
นักลงทุนเกาะติดการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทค้าปลีกในสัปดาห์นี้ เพื่อจับตาผลกระทบจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภค รวมทั้งการเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ทั้งภาคการผลิตและภาคบริการของสหรัฐ ก่อนที่จะมีการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในสัปดาห์หน้า
ราคาหุ้นของทาร์เก็ต คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้นกว่า 2% หลังเปิดเผยผลประกอบการสูงกว่าคาดในไตรมาส 4/2565
