- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)มีมติเป็นเอกฉันท์ ขึ้นดอกเบี้ย 0.75%ตามคาด
- ดัชนีS&P500 ทำสถิติสูงสุดใหม่ -แนสแด็กพุ่งเฉียด500จุด
- ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่ออกมาดีต่อเนื่องช่วยหนุนตลาด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 27ก. ค.ที่ 32,197.59 จุด เพิ่มขึ้น 436.05 จุด หรือ +1.37%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,023.61 จุด เพิ่มขึ้น 102.56 จุด หรือ +2.62% สร้างสถิติสูงสุดใหม่อีดครั้ง ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิสพุ่งแรง ปิดที่ 12,032.42 จุด เพิ่มขึ้น 469.85 จุด หรือ +4.06%
นักลงทุนกลับมาซื้อหุ้นหลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามคาด ขานรับมุมมองที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯยังรับมือการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้
ทั้งนี้ คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟด มีมติเป็นเอกฉันท์ 12-0 ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.75% สู่ระดับ 2.25-2.50% ในการประชุมวันพุธ (27 ก.ค.) ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้
นอกจากนั้น การแสดงความเห็นของนายพาวเวลในการแถลงข่าวนั้นแม้ว่าจะยังเป็นการขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง แต่นักลงทุนมีความหวังว่า อัตราการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะชะลอลง
ขณะเดียวกัน การเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนได้ช่วยหนุนตลาดด้วย โดยหุ้นไมโครซอฟท์ พุ่ง 6.7% หลังคาดการณ์รายได้เพิ่มขึ้นเป็นเลขสองหลักในปีงบการเงินนี้โดยได้แรงหนุนจากความต้องการบริการด้านระบบคลาวด์
หุ้นอัลฟาเบท พุ่ง 7.7% หลังเปิดเผยยอดขายโฆษณาบนกูเกิลที่ดีเกินคาด ซึ่งคลายความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของตลาดโฆษณา
หุ้นที-โมบาย ยูเอส อิงค์ พุ่งขึ้น 5.2% หลังปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของจำนวนผู้ใช้บริการเป็นครั้งที่ 2 ในปีนี้ และคาดการณ์ผลกำไรรายไตรมาสสูงเกินคาด
ทั้งนี้ ขณะนี้บริษัทมากกว่า 150 แห่งในดัชนี S&P 500 ได้เปิดเผยผลประกอบการในไตรมาส 2 แล้ว ซึ่งราว 70% ในจำนวนดังกล่าวได้รายงานกำไรสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้
การเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2 ของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐในคืนวันนี้
