ดาวโจนส์พุ่งแรง423จุด จับตาเลือกตั้งสหรัฐฯ

.ตลาดคาดไบเดนมีชัยเหนือประธานาธิบดีทรัมป์

.นักลงทุนซื้อหุ้นกลุ่มที่คาดได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจฟื้น

.ดัชนีแนสแด็กขึ้นน้อย หลังจากมีแรงเทขายหุ้นเทคโนโลยี

นักลงทุนจับตาผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอย่างใกล้ชิด โดยจนถึงขณะนี้ผลสำรวจของทุกสำนักระบุตรงกันว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะพ่ายแพ้ต่อนายโจ ไบเดน คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต ในการเลือกตั้งครั้งนี้ แต่คะแนนเสียงจากผู้ที่ยังไม่ได้ตัดสินใจ และคะแนนเสียงจากหลายรัฐที่ไม่ใช่ฐานเสียงของทั้งพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน อาจเป็นปัจจัยชี้ขาดผลการเลือกตั้งครั้งนี้

นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นในกลุ่มต่างๆเป็นวงกว้าง โดยซื้อหุ้นกลุ่มที่ได้ผลดีจากการเลือกตั้งสหรัฐ โดยดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงาน กลุ่มวัสดุ และกลุ่มอุตสาหกรรม ต่พุ่งขึ้นกว่า 2.7% 

หุ้นเอ็กซอน โมบิล พุ่งขึ้น 4.20% หุ้นเชฟรอน พุ่งขึ้น 3.81% หุ้นโบอิ้งพุ่งขึ้น 2.92% หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ พุ่งขึ้น 3.96% หุ้น 3M บวก 1.95% หุ้นฟรีพอร์ท-แมคมอร์แรน พุ่งขึ้น 5.19% 

ขณะที่ดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้น 2.27% หุ้นเจพีมอร์แกน พุ่งขึ้น 2.25% หุ้นซิตี้กรุ๊ป บวก 1.93% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ปรับตัวขึ้น 1.6%

หุ้นเอสเต้ ลอเดอร์ ผู้ผลิตเครื่องสำอางรายใหญ่ ดีดตัวขึ้น 1.9% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด โดยได้แรงหนุนจากยอดขายผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง

อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลง จากการประกาศผลประกอบการที่ไม่สูงกว่าการคาดการณ์  ส่งให้ดัชนีแนสแด็กเพิ่มขึ้นไม่มากโดยหุ้นแอมะซอนดอทคอม ร่วงลง 1.04% หุ้นทวิตเตอร์ ดิ่งลง 4.55% หุ้นไมครอน เทคโนโลยี ร่วงลง 1.25% หุ้นเฟซบุ๊ก ปรับตัวลง 0.67%

นอกเหนือจากผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐแล้ว นักลงทุนยังจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 4-5 พ.ย. หลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเพียงวันเดียว และการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์

ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาอยู่ในทิศทางฟื้นตัว โดยสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐพุ่งขึ้นสู่ระดับ 59.3 ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2561 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 55.8 จากระดับ 55.4 ในเดือนก.ย.
ไอเอชเอส มาร์กิต เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 53.4 ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.ปีที่แล้ว จากระดับ 53.2 ในเดือนก.ย.
อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนก.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนส.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างจะดีดตัวขึ้น 1.0% ในเดือนก.ย.