. ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐดิ่งลงสู่ระดับ 50.0 ในเดือนมิ.ย.
.นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นต่อเนื่อง คาดคนซื้อของน้อย เงินเฟ้อในช่วงต่อไปไม่พุ่ง
. ราคาน้ำมันดิบโลกกลับมาเพิ่มขึ้น โดยสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI พุ่งขึ้นกว่า 2%
เมื่อเวลาประมาณ 21.55 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ 31,289.72 จุด เพิ่มขึ้น
612.36 จุด หรือ +2.00% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 11,484.15 จุด เพิ่มขึ้น 251.96 จุด หรือ +2.24%
ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500เคลื่อนไหวที่ระดับ 3,878.47 จุด เพิ่มขึ้น 82.74 จุด
ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนล่าสุดระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐดิ่งลงสู่ระดับ 50.0 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เริ่มมีการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในช่วงทศวรรษ 1940 และต่ำกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่ระดับ 50.2 หลังจากแตะระดับ 58.4 ในเดือนพ.ค.
ตัวเลขดังกล่าวยังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 50.2 โดยได้รับผลกระทบจากความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อและภาวะเศรษฐกิจถดถอย
นักลงทุนกลับมาซื้อหุ้นต่อเนื่อง โดยมองว่าความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ลดลงจะทำให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นไม่มากในระยะต่อไป และกำหนดทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้การขึ้นดอกเบี้ยไม่แรงมากอย่างที่คาดไว้ก่อนหน้า
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ติดตามตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อของผู้บริโภคสหรัฐในช่วง 1 ปีข้างหน้าและ 5 ปีข้างหน้า หลังจากที่สหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งสูงสุดในรอบกว่า 40 ปี
โดยมอร์แกน สแตนลีย์ระบุว่า ภายในสิ้นปี 2565 ตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อระยะ 5 ปีของผู้บริโภคจะพุ่งแตะ 3.8% ซึ่งจะเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2536 และสูงกว่าระดับ 3.3% ในผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกน
ขณะที่การคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยจะแตะระดับ 3.4% ในช่วงสิ้นปีนี้ ซึ่งบ่งชี้ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 1.75% ภายในปีนี้ และคาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 3.8% ในสิ้นปี 2566 และชะลอตัวสู่ระดับ 3.4% ในปี 2567 ขณะที่อัตราดอกเบี้ยระยะยาวอยู่ที่ 2.5%
ราคาน้ำมันดิบโลกกลับมาเพิ่มขึ้น โดยสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI พุ่งขึ้นกว่า 2% ทะลุระดับ 106 ดอลลาร์ในวันนี้ โดยได้แรงหนุนจากภาวะน้ำมันตึงตัวในตลาด
