ดาวโจนส์ปิดลบ 77.91 จุด เฟดมองมีโอกาสโควิด-19 ระบาดรอบ 2- มาตรการรัฐยังไม่พอ

  • เฟดชี้มีโอกาสอย่างมากที่โควิด-19 จะระบาดรอบ 2 อาจต้องเพิ่มมาตรการคลังสู้
  • ขณะที่ตัวเลขคาดการณ์ที่ดีที่สุด อัตราการว่างงานของสหรัฐยังสูงกว่า 10% ในปลายปีนี้
  • หุ้นไฟเซอร์ พุ่งแรง ระบุผลการทดลองใช้วัคซีนต้านโควิด-19 ในมนุษย์ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 1 ก.ค.ที่ 25,734.97 จุด ลดลง 77.91 จุด หรือ -0.30% ดัชนีเอสแอนด์ดี 500 ปิดที่ 3,115.86 จุด เพิ่มขึ้น 15.57 จุด หรือ +0.50% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 10,154.63 จุด เพิ่มขึ้น 95.86 จุด หรือ +0.95%

ตัวเลขการจ้างงานที่เพิ่มขึ้น แม้จะต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาด และตัวเลขเศรษฐกิจอื่นที่ออกมาช่วยให้นักลงทุนมีความมั่นใจภาวะเศรษฐกิจมากขึ้น โดยออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น 2.369 ล้านตำแหน่งในเดือนมิ.ย.

ขณะเดียวกัน ADP ได้ปรับตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนในเดือนพ.ค.โดยเปลี่ยนเป็นมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 3.065 ล้านตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่า การจ้างงานลดลง 2.76 ล้านตำแหน่ง ขณะที่รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 49.8 ในเดือนมิ.ย. จากระดับ 39.8 ในเดือนพ.ค.

ขณะที่สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 52.6 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.ปีที่แล้ว จากระดับ 43.1 ในเดือนพ.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 49.5 ขณะที่จับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมิ.ย.ที่จะประกาศวันนี้

ทั้งนี้ นางแมรี ดาลี ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาซานฟรานซิสโก กล่าวว่า แม้แต่ในการคาดการณ์ที่ดีที่สุด อัตราการว่างงานของสหรัฐจะยังคงอยู่สูงกว่า 10% ในปลายปีนี้

“ถ้าเราสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ โดยมีการคิดค้นวัคซีน กิจกรรมทางเศรษฐกิจของเราก็จะฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจใช้เวลา 4-5 ปี แต่ถ้าเราเผชิญกับผลกระทบที่ยาวนาน การฟื้นตัวของเศรษฐกิจก็อาจใช้เวลานานกว่านั้น”

ขณะที่รายงานการประชุม คณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ที่ออกมาวานนี้ ระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่มองว่า มีโอกาสอย่างมากที่จะเกิดการแพร่ระบาดรอบสองของไวรัสโควิด-19 และยังระบุว่า มีความเสี่ยงที่มาตรการการคลังในการให้ความช่วยเหลือภาคครัวเรือน ภาคธุรกิจ และรัฐบาลท้องถิ่น อาจจะไม่เพียงพอ

นักวิเคราะห์จากบริษัทแคปิตอล อิโคโนมิกส์กล่าวว่า รายงานการประชุมเดือนมิ.ย.ของเฟดไม่ได้บ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงของนโยบายการเงินในระยะใกล้ และยังแสดงให้เห็นว่า เฟดยังต้องใช้เวลาอีกนานในการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนสำหรับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาว

หุ้นโบอิ้งร่วงลง 1.53% ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ดัชนีดาวโจนส์ปิดอ่อนแรงลง หลังจากสื่อรายงานว่า สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐ (FAA) ได้ชะลอการอนุมัติการขึ้นบินของเครื่องโบอิ้ง 737 MAX เนื่องจากโบอิ้งไม่ได้ยื่นรายละเอียดเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงระบบควบคุมการบินที่สำคัญของเครื่องบินโบอิ้ง 737 MAX

หุ้นไฟเซอร์ พุ่งขึ้น 3.21% หลังเปิดเผยว่า ผลการทดลองใช้วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ในมนุษย์ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ โดยไฟเซอร์ได้ดำเนินการทดลองดังกล่าวร่วมกับ BioNTech ซึ่งเป็นบริษัทยาของเยอรมนี และคาดว่าบริษัทจะสามารถผลิตวัคซีน 100 ล้านโดสภายในปลายปีนี้ และมากกว่า 1.2 พันล้านโดสภายในสิ้นปีหน้า

หุ้นเฟดเอ็กซ์ ทะยานขึ้น 11.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรและรายได้ในไตรมาส 2 ที่แข็งแกร่งเกินคาด โดยได้แรงหนุนจากความต้องการส่งสินค้าที่เพิ่มขึ้นในช่วงที่โควิด-19 แพร่ระบาด

อย่างไรก็ตาม ดัชนีเอสแอนด์พี 500 และแนสแด็ก สามารถปิดตลาดในแดนบวกได้ โดยมีแรงซื้อในหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และกลุ่มสาธารณูปโภค ที่พุ่งขึ้น 2.57% และ 2.29% ตามลำดับ